โครงการ “การพัฒนาและส่งเสริมศักยภาพของชุมชนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมแปรรูปอาหาร เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตที่ยังยื่นในพื้นที่จังหวัดสระบุรี ฉะเชิงเทรา และนนทบุรี” มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาปรับปรุง หรือต่อยอดนวัตกรรมแปรรูปอาหาร อย่างน้อย 6 นวัตกรรม 3 ชุมชน โดยยึดหลักการใช้วัตถุดิบหรือผลผลิตทางการเกษตรที่มีอยู่ในพื้นที่ เพื่อสร้างเอกลักษณ์ผลิตภัณฑ์ของชุมชน
รูปแบบการดำเนินงานวิจัยเน้นการทำงานมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน ได้แก่ หน่วยงานวิจัย (วว.) หน่วยงานในพื้นที่ (สำนักงานสภาเกษตรกรจังหวัดสระบุรี ฉะเชิงเทรา และนนทบุรี และศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ) ทำการคัดเลือกกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่มีศักยภาพเข้าร่วมโครงการตามหลักเกณฑ์ จำนวน 3 กลุ่ม และร่วมกันการออกแบบนวัตกรรมพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือต่อยอดจากผลิตภัณฑ์เดิม (6 ผลิตภัณฑ์ใหม่) ให้สอดคล้องกับความต้องการ เน้นใช้แหล่งวัตถุดิบหรือผลผลิตทางการเกษตรที่มีอยู่ในพื้นที่ ความพร้อมของอุปกรณ์เครื่องมือที่มีอยู่ สภาพแวดล้อมและศักยภาพของแต่ละชุมชน ซึ่งประเมินจากจุดแข็ง/จุดอ่อนของธุรกิจและผลิตภัณฑ์ โดยใช้ SWOT Analysis ได้แก่ 1.กลุ่มวิสาหกิจชุมชนมแปรรูปข้าวไรซ์เบอรี่ จังหวัดสระบุรี พัฒนาผลิตภัณฑ์ผงชงดื่มข้าวกล้องงอกไรซ์เบอรี่ รสชาเขียว และโจ๊กข้าวกล้องไรซ์เบอรี่กึ่งสำเร็จรูป 2.วิสาหกิจชุมชนกลุ่มมิตรสัมพันธ์ จังหวัดฉะเชิงเทรา พัฒนาผลิตภัณฑ์มะดันแช่อิ่มอบแห้ง และมะม่วงหาวมะนาวโห่แช่อิ่มอบแห้ง สูตรหวานน้อย 3.กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรกรบ้านคลองหม่อมแช่ม จังหวัดนนทบุรี พัฒนาผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยวรูปแท่ง รสเบอร์รี่ และใบบัวบกแผ่นกรอบ พร้อมการออกแบบและคัดเลือกบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสม ได้ดำเนินการจัดทำคู่มือประกอบการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิต ทั้งภาคทฎษฎี และการอบรมเชิงปฏิบัติ ณ สถานที่ผลิตจริง เพื่อให้กลุ่มได้เรียนรู้และสามารถนำไปปฏิบัติได้เองอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน ในกระบวนการวิจัยและพัฒนา ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการยอมรับจะผ่านขั้นตอนการประเมินทางประสาทสัมผัสจากคณะผู้วิจัย สมาชิกของกลุ่ม และหน่วยงานในพื้นที่ ซึ่งคะแนนเฉลี่ยการยอมรับของทุกผลิตภัณฑ์ อยู่ในช่วงร้อยละ 80-100 (เกณฑ์คะแนนการยอมรับต้องไม่น้อยกว่า ร้อยละ 75) กิจกรรมการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการประเมินก่อนและหลังการฝึกอบรมถ่ายทอดเทคโลยี พบว่าเกษตรกรมีความรู้เพิ่มจากก่อนเข้ารับการอบรม ร้อยละ 28-67 นอกจากนี้ยังพบว่ากลุ่มเกษตรกรมีความเข้าใจในหลักสูตรที่ได้รับการฝึกอบรมสามารถนำไปปฏิบัติได้ภายหลังจากการอบรมฯสิ้นสุด การควบคุมคุณภาพของ ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการพัฒนา โดยผ่านการวิเคราะห์คุณภาพทางเคมี และวิเคราะห์ข้อมูลฉลากโภชนาการ เพื่อให้แต่ละกลุ่มขอขึ้นทะเบียนอาหาร กับ อย.ต่อไป นอกจากนี้ ได้จัดอบรมเสริมองค์ความรู้ด้านต่างๆ เพื่อยกระดับการผลิตให้ได้มาตรฐาน ได้แก่ “แนวทางการผลิตอาหารตามหลักเกณฑ์วิธีการที่ดี (Good Manufacturing Practice GMP)” ด้านบรรจุภัณฑ์ ได้แก่ “การสร้างแบรนด์ผ่านบรรจุภัณฑ์เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า” และ ด้านความรู้ในส่วนของการดำเนินธุรกิจการ กำหนดกลยุทธ์ด้านการตลาด การคำนวณต้นทุนการผลิต มุ่งประโยชน์ให้เกิดความยั่งยืนกับกลุ่มวิสาหกิจชุมชน โดยเน้นยึดหลักแนวปฎิบัติตามหลักปรัญชาของเศรษฐกิจพอเพียง ได้แก่ “จัดอบรมเรื่อง แนวทางการพัฒนาความยั่งยืนของวิสาหกิจ ระดับท้องถิ่น โดยวิถีเศรษฐกิจพอเพียง” จากนั้นได้ติดตามผลการดำเนินงาน และประเมินผลการถ่ายทอดองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ในด้านการประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจ และสังคม การประเมินความคุ้มค่าของโครงการฯ ตลอดจนประเมินระดับการรับรู้และการนำ วทน. ไปใช้ประโยชน์ พบว่า โครงการนี้สามารถลดต้นทุนและช่วยสร้างรายได้ให้ให้กับทั้ง 3 กลุ่มคิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 1.3 ล้านบาท หากพิจารณาในแง่ความคุ้มค่าของโครงการ ที่ภาครัฐลงทุนในการให้ความช่วยเหลือกลุ่ม จะก่อกำไรโดยประมาณการกำไรของธุรกิจที่เกิดขึ้นในอัตราร้อยละ 10 จากการประเมินความเป็นผู้ประกอบการ ตามแนวการพัฒนาความยั่งยืนของวิสาหกิจระดับท้องถิ่นโดยวิถีเศรษฐกิจพอเพียง พบว่า วิสาหกิจชุมชนเกษตรกรบ้านคลองหม่อมแช่ม วิสาหกิจชุมชนแปรรูปข้าวไรซ์เบอร์รี่ และวิสาหกิจชุมชนกลุ่มมิตรสัมพันธ์ มีผลประเมินอยู่ในระดับร้อยละ 86 75 และ 74 ตามลำดับซึ่ง ถือว่ากลุ่มสามารถนำแนวทางการพัฒนาความยั่งยืนของวิสาหกิจไปปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจโดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของทางสายกลางและความไม่ประมาท โดยคำนึงถึงหลักความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภูมิคุ้มกันที่ดี
ดังนั้นในการพัฒนาและส่งเสริมศักยภาพชุมชนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อให้เกิดความยั่งยืน ควรดำให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม เน้นการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในชุมชนสร้างเอกลักษณ์ ร่วมกับการใช้ข้อมูลความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี มาตรฐานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกับการพัฒนาฉลากและบรรจุภัณฑ์ พร้อมแนวทางการตลาดที่รวดเร็ว ทันสมัยผ่านสื่อต่างๆ จะช่วยยกระดับผลิตภัณฑ์ เพิ่มมูลค่าและสร้างรายได้ให้กับผลิตภัณฑ์นั้นๆได้เป็นอย่างดี