ในช่วงปี 2556 - 2562
หนึ่งในผลผลิตของโครงการ คือองค์ความรู้พร้อมใช้
มีลักษณะเน้นจากบนลงล่าง (Top-down) เป็นหลัก ด้วยการกำหนดประเด็นและกลุ่มเรื่องจากคณะทำงานที่ วช. ได้ตั้งขึ้นมาเพื่อกำหนดประเด็นและกลุ่มเรื่องที่จะควรได้รับการสนับสนุน
ใช้แผนยุทธศาสตร์สำคัญของประเทศกำหนดกรอบประเด็นหรือกลุ่มเรื่อง
ให้สถาบันการศึกษาในพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เป็นผู้ศึกษาความต้องการของพื้นที่ ซึ่งความต้องการนั้นต้องเชื่อมโยงกับประเด็นและกลุ่มเรื่องที่กำหนดโดยคณะทำงาน แล้วจึงนำส่งข้อเสนอโครงการมาให้คณะทำงานพิจารณากลั่นกรองโครงการ
ลักษณะเน้นจากล่างสู่บน (Bottom-up) เป็นหลัก และได้ออกแบบประเด็นและกลุ่มเรื่องดังนี้
1. รัฐบาลมอบหมาย วช. โดยตรงร่วมกับหน่วยหลักในการพัฒนาพื้นที่
2. สถาบันการศึกษาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและจังหวัดเป็นผู้เสนอความต้องการองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่ และทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง วช. กับจังหวัด
3. ตามแนวทางการพัฒนาจังหวัดที่นายกฯ รองนายกฯ และรัฐมนตรีลงพื้นที่/ครม.สัญจร
4. ความร่วมมือระหว่างสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม มหาวิทยาลัยราชภัฎในพื้นที่ 4 ภูมิภาค และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล 9 แห่ง รวมทั้งสถาบันการศึกษาในพื้นที่
แต่โครงการ RC มีการกำหนดค่าเป้าหมายที่ชัดเจนกว่าโครงการ KM และมีระดับงานวิจัยและนวัตกรรม TRL ต้องระดับ 5 ขึ้นไป และ SRL 2 ขึ้นไป
หนึ่งในผลผลิตของโครงการ คือองค์ความรู้พร้อมใช้
โครงการ KM และ RC มีทั้งหมด 396 ผลงานวิจัยและองค์ความรู้พร้อมใช้ประโยชน์ ประมาณร้อยละ 95.1 เป็นคู่มือและสิ่งตีพิมพ์ รองลงมาคือผลิตภัณฑ์ต้นแบบร้อยละ 42.2 และเครื่องมือและเทคโนโลยีต้นแบบร้อยละ 27.6 นอกจากนี้ยังพบอีกว่าองค์ความรู้ที่นำไปใช้ประโยชน์ ผ่านโครงการ KM และ RC ที่เชื่อมโยงแพลตฟอร์ม 2 (O2) Program 9a Program 7 และ Program ที่ วช. ต้องรับผิดชอบ KR
โดยองค์ความรู้นี้เมื่อถูกนำไปใช้ประโยชน์อย่างมีประสิทธิภาพจะต้องเกิดประสิทธิผล (ผลผลิต ผลลัพธ์ ผลกระทบ) โดยมีเป้าหมาย (Objective) ให้องค์ความรู้นี้ถูกนำไปใช้ประโยชน์เพื่อแก้ไขปัญหาและตอบโจทย์ด้านทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ด้านการเกษตร ด้านสังคม และความั่นคงในทุกมิติ
เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นไปตามเป้าหมายหรือ Objective ที่ตั้งไว้หรือไม่
การลงทุนเพื่อจัดการความรู้พร้อมใช้และถ่ายทอดองค์ความรู้ ผู้รับประโยชน์สามารถดูดซับความรู้ที่เกิดจากการอบรม นำความรู้ไปเผยแพร่และประยุกต์ใช้ได้สูงถึง 7.74 เท่า
Demand Side: ผู้ใช้ประโยชน์สามารถดูดซับความรู้ ประยุกต์ใช้ และขยายผลได้สูง ระดับความสำเร็จสูงทำให้ SROI สูงด้วย
Supply : ผู้รับทุน/นักวิจัย Demand : ผู้รับผลประโยชน์
การลงทุนโครงการ MK และโครงการ RC มีความคุ้มค่าเพราะลงทุนสนับสนุนโครงการวิจัยทุก ๆ 1 บาท ได้ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจและสังคมสูงถึง 17.28 บาท
1,585 แห่ง เป็น 1,385 หมู่บ้านทั่วประเทศ
107 กลุ่มเกษตรกร/วิสาหกิจชุมชน ใน 34 จังหวัด
93 ศูนย์การเรียนรู้ใน 44 จังหวัด
เกษตรกร 11,031 คน
ประชาชนทั่วไป นิสิต นักศึกษา 22,867 คน
ผู้ประกอบการ 6,012 คน
หน่วยงานภาครัฐ/ผู้กำหนดนโยบาย/นักวิจัย/นักวิชาการ/อื่น ๆ 22,121 คน
เชิงเศรษฐกิจ
เชิงสังคม/ชุมชน
เชิงวิชาการ
เชิงนโยบาย
สงวนลิขสิทธิ์ © 2022 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)