งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้นวัตกรรมเทคโนโลยีพลังงานทดแทนและระบบบริหารจัดการแบบสมาร์ทฟาร์มสำหรับชุมชนเกษตรกรเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และสนับสนุนการสร้างชุมชนต้นแบบเพื่อให้เป็นต้นแบบชุมชนเกษตรกรรมสีเขียว การดำเนินโครงการประกอบด้วย การถ่ายทอดองค์ความรู้ระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และองค์ความรู้ระบบบริหารจัดการแบบสมาร์ทฟาร์มแก่พื้นที่ที่เข้าร่วมโครงการและสามารถพัฒนาเป็นชุมชนต้นแบบ ได้แก่ พื้นที่ในอำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นทำการสร้างต้นแบบนวัตกรรมและอบรมถ่ายทอดแก่ชุมชนเพื่อสร้างนวัตกรต้นแบบ และอบรมถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชุมชนอื่นๆ มีการประเมินความคุ้มทุนทางด้านเศรษฐศาสตร์ของนวัตกรรมที่ถ่ายทอด รวมทั้งติดตามและประเมินผลการติดตามการใช้งานนวัตกรรมต้นแบบ จากการประเมินศักยภาพได้คัดเลือกพื้นที่ติดตั้งต้นแบบนวัตกรรมที่มีความเป็นไปได้ในการนำนวัตกรรมไปใช้งานให้เกิดประโยชน์โดยจำนวน 2 แห่ง ได้แก่ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตร พืช ผัก สมุนไพร ท่าต้นกวาว และศูนย์การเรียนรู้โคกหนองนาโมเดลตำบลยางเนิ้ง และได้จัดจัดประชุมเริ่มโครงการกับชุมชนเพื่อสร้างความเข้าใจในการดำเนินโครงการแก่ชุมชน จากนั้นทำการออกแบบและติดตั้งต้นแบบนวัตกรรมที่มีความเหมาะสมกับการใช้งานชุมชนโดยใช้ระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดกำลังไฟฟ้า 900 W ประกอบด้วย แผงเซลล์แสงอาทิตย์ชนิดผลึกเดี่ยวขนาด 450 W จำนวน 1 แผง จ่ายให้กับเครื่องเติมอากาศแบบกังหันมอเตอร์กระแสตรงขนาด 350 W ในเวลากลางวันซึ่งสามารถจ่ายให้กับระบบเติมอากาศได้ประมาณ 9 ชั่วโมง/วัน ขึ้นอยู่กับปริมาณความเข้มของแสง จากการประเมินค่าเฉลี่ยพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตได้เท่ากับ 2.58 kWh/วัน และใช้แผงเซลล์แสงอาทิตย์จำนวน 1 แผง ขนาด 450 W ผลิตไฟฟ้าเพื่อจ่ายให้กับแบตเตอรี่ชนิด Deep Cycle ขนาด 12 V 100 Ah จำนวน 2 ลูกในการสำรองไฟฟ้าใช้ในเวลากลางคืนตั้งแต่เวลา 23:00 น.- 04:00 น. ซึ่งเป็นเวลาที่ค่าออกซิเจนละลายในน้ำ (DO) มีค่าต่ำ โดยใช้พลังงานเฉลี่ย 1.21 kWh/วัน ส่วนที่ 2 ระบบบริหารจัดการแบบสมาร์ทฟาร์ม ประกอบด้วย ระบบตรวจวัดพลังงานใช้เซนเซอร์ตรวจวัดพารามิเตอร์ไฟฟ้า ระบบตรวจวัดสภาพแวดล้อมที่มีบอร์ดควบคุมเพื่อตรวจวัดค่าออกซิเจนละลายในน้ำ วัดอุณหภูมิน้ำภายในบ่อ อุณหภูมิอากาศแวดล้อม และความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศแวดล้อม ตามลำดับ รวมทั้งพัฒนาโมบายแอปพลิเคชั่นเพื่อตรวจติดตามการทำงานของบ่อและเก็บข้อมูลการใช้พลังงานและสภาพแวดล้อมกับระบบคลาวด์เซิฟเวอร์
จากการวิเคราะห์ข้อมูลการใช้งานของนวัตกรรมต้นแบบพบว่า สามารถรักษาคุณภาพของการเพาะเลี้ยงปลาโดยปริมาณค่าออกซิเจนที่ละลายในน้ำ (DO) ตลอดทั้งวัน มีค่าสูงสุด 7.50 mg/L ค่าต่ำสุด 1.30 mg/L หรือคิดเฉลี่ยทั้งวันมีค่า 3.70 mg/L ซึ่งเพียงพอต่อการอยู่อาศัยของปลา สำหรับการประเมินการใช้พลังงานตลอดทั้งปี ระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์สามารถผลิตไฟฟ้าจ่ายให้กับเครื่องเติมอากาศได้ 1,383.35 kWh/ปี คิดเป็นพลังงานไฟฟ้าที่ลดลง 90.24% เมื่อเปรียบเทียบกับการเปิดเครื่องเติมอากาศแบบเดิมในช่วงกลางคืนประมาณ 12 ชั่วโมงต่อวัน หรือคิดเป็นเงินค่าไฟฟ้าที่ประหยัดได้ 6,225.08 บาท/ปี มีระยะเวลาคืนทุนของระบบ 6.35 ปี มีมูลค่าปัจจุบันสุทธิเท่ากับ 15,898.71 บาท และมีอัตราผลตอบแทนภายในเท่ากับ 10.53% ตามลำดับ สำหรับผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมสามารถลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ลดลงได้ 776.03 kg CO2/ปี
สำหรับผลการจัดฝึกอบรมประกอบด้วย 2 ส่วนได้แก่ การอบรมเพื่อสร้างนวัตกรต้นแบบแก่ชุมชน ประกอบด้วย ผู้นำชุมชน ตัวแทนเกษตรกร และประมงอำเภอสารภีเข้าร่วมรับการถ่ายทอดองค์ความรู้จำนวน 13 คน และการจัดฝึกอบรมถ่ายทอดเทคโนโลยีแก่ชุมชนอื่นๆ ซึ่งจัดขึ้นจำนวน 2 ครั้งๆ ละ 15 คน รวมทั้งสิ้น 30 คน โดยนวัตกรต้นแบบร่วมกับโครงการเป็นผู้ถ่ายทอดความรู้ ซึ่งการจัดฝึกอบรมทั้ง 2 ส่วน พบว่า ผู้เข้าร่วมอบรมมีความรู้ในหัวข้อนวัตกรรมที่ถ่ายทอดเพิ่มขึ้นตั้งแต่ 20-80% และ 20-86.67 % ตามลำดับ และจากการประเมินผลผู้เข้าร่วมได้รับความรู้และมีความพึงพอใจจากโครงการในระดับมากถึงมากที่สุด หลังจากดำเนินโครงการคณะผู้วิจัยได้มีการติดตามและประเมินผลการใช้งานนวัตกรรมต้นแบบทั้ง 2 แห่ง โดยใช้แบบสำรวจพบว่า ค่าเฉลี่ยของคะแนนประเมินมากกว่า 4.75 คะแนน อย่างไรก็ตามผู้เข้าร่วมโครงการให้ความเห็นว่าความรู้ที่ได้รับอาจยังมีเวลาเรียนรู้และศึกษาการใช้งานไม่เพียงพอให้เกิดความเชี่ยวชาญภายในระยะเวลาดำเนินโครงการ อย่างไรก็ตามจะสามารถเรียนรู้และมีทักษะที่เชี่ยวชาญขึ้นและประยุกต์ใช้งานต่อไปในนาคต รวมทั้งอยากให้มีให้การสนับสนุนและขยายผลโครงการในปีต่อๆ ไป