พฤฒิพลัง หมายถึงพลังของการเป็นผู้สูงอายุ ในการศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดการความรู้เรื่องการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพผสานภูมิปัญญาไทยและวัฒนธรรมโดยการมีส่วนร่วมของผู้สูงอายุในชุมชนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และ พัฒนาพฤฒิพลังของผู้สูงอายุอย่างสร้างสรรค์และยั่งยืน ประกอบด้วย 2 กิจกรรม ได้แก่ การ Focus group และการถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพแก่ผู้สูงอายุในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เครื่องมือในการวิจัย ประกอบด้วย คำถามสำหรับสนทนากลุ่ม โปรแกรมการถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพแก่ผู้สูงอายุในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา แบบสอบถามข้อมูลทั่วไปและแบบสอบถามการสูงวัยอย่างมีศักยภาพ (Active ageing) หาความเที่ยงตรงของเครื่องมือ (Validity) โดยให้ผู้ทรงคุณวุฒิตรวจสอบความเหมาะสมด้านเนื้อหาโดยการหาค่า ดัชนีความเที่ยงตรง (Content validity index: CVI) จำนวน 5 ท่าน ค่า CVI ของเครื่องมือทุกชุด = 1 หาความเชื่อมั่นด้วยสูตรสัมประสิทธิ์อัลฟาของครอนบาค (Cronbach ’s coefficient)แบบสอบถามการสูงวัยอย่างมีศักยภาพ (Active ageing) ได้ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .88
ผลการศึกษาพบว่า แนวทางการจัดการความรู้เกี่ยวกับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นั้น ควรเป็นการถ่ายทอดความรู้แบบ 2 ทาง แพทย์แผนไทยแต่ละอำเภอจะถ่ายทอดความรู้ในการใช้เทคโนโลยีเพื่อการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ โดยใช้คู่มือ “การใช้ application Ayutthaya health HUB เพื่อให้เกิดความยั่งยืน ควรมีระบบติดตาม ควรจะจัดให้อยู่ในระเบียบวาระการประชุมที่เป็นทางการ ในการถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เน้นความสำคัญ ทั้ง 3 องค์ประกอบ คน เทคโนโลยี และกระบวนการความรู้ ผู้วิจัยถ่ายทอดความรู้ผ่านโปรแกรมการถ่ายทอดความรู้เรื่องการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและภูมิปัญญาไทย แก่ผู้สูงอายุจำนวน 52 คน อายุเฉลี่ย 65.75 ปี (SD = 4.48) เมื่อเปรียบเทียบรายได้เฉลี่ยของผู้สูงอายุก่อนเข้าร่วมถ่ายทอดความรู้พบว่ามีรายได้เฉลี่ย 14876.2 บาท หลังเข้าร่วมถ่ายทอดความรู้ 8 สัปดาห์ พบมีรายได้เฉลี่ยเหลือ 11855.44 บาท ซึ่งหลังเข้าร่วมถ่ายทอดความรู้พบค่าเฉลี่ยรายได้ลดลงแต่ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ ผลการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยของระดับพฤฒิพลังของผู้สูงอายุก่อนเข้าร่วมโปรแกรม สัปดาห์ที่ 4 และสัปดาห์ที่ 8 พบว่า ค่าเฉลี่ยของระดับพฤฒิพลังของผู้สูงอายุ ก่อนการอบรมและในสัปดาห์ที่ 4 มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับนัยสำคัญ .05 (p < .05) ในสัปดาห์ที่ 4 และ 8 ไม่มีความแตกต่างกัน