โครงการ “ถ่ายทอดองค์ความรู้เพื่อการจัดทำฐานข้อมูลและแผนส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุตามแนวทางประชารัฐ” เกิดขึ้นจากการนำแนวคิดการบูรณาการงานแบบประชารัฐมาใช้เป็นแนวทางในจัดทำแผนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในชุมชน ที่เป็นการมีส่วนร่วมจากภาคส่วนต่างๆในชุมชนทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน โดยผู้วิจัยได้นำองค์ความรู้จากการที่ได้มีโอกาสเข้าไปมีส่วนร่วมในกระบวนการจัดทำแผน การแปลงแผนไปสู่การปฏิบัติ การติดตามและประเมินประสิทธิผล รวมไปถึงการปรับปรุงแผน ทั้งในระดับชาติ ระดับหน่วยงาน และระดับชุมชน ทั้งที่เป็นแผนยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการ จนเกิดเป็นองค์ความรู้ในด้านต่างๆ มาถ่ายทอดให้แก่ชุมชน เพื่อให้ชุมชนมีแผนส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ ซึ่งจะเป็นแผนยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่ชุมชนจะใช้เป็นแนวทางในการดำเนินงานด้านผู้สูงอายุอย่างเป็นรูปธรรม อันนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุในพื้นที่ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้ชุมชนมีศักยภาพเพิ่มขึ้น สามาถต่อยอดองค์ความรู้ที่ได้รับไปสู่การปฏิบัติได้จริง รวมถึงสามารถถ่ายทอดและขยายผลไปยังชุมชนอื่นได้
องค์ความรู้ที่ชุมชนได้รับจากการดำนินโครงการครั้งนี้ แบ่งออกเป็น 2 องค์ความรู้ ได้แก่ 1) องค์ความรู้ในการจัดทำฐานข้อมูล และ 2) องค์ความรู้ในการจัดทำแผนส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุระดับชุมชน ผ่านการจัดกิจกรรมต่างๆที่อยู่ในรูปของการจัดประชุมระดมความคิด และการอบรมเชิงปฏิบัติการ 10 กิจกรรม ผลที่เกิดจากการดำเนินงานโครงการพบว่า ภาคีเครือข่ายต่างๆในชุมชน รวมถึงภาคีเครือข่ายข้างเคียงมีองค์ความรู้เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการจัดทำฐานข้อมูล ทั้งที่เป็นองค์ความรู้เกี่ยวกับการเก็บรวบรวมข้อมูล การจัดการข้อมูล และการนำเสนอข้อมูลด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ นอกจากนี้ชุมชนยังได้รับความรู้เกี่ยวกับการจัดทำแผนฯ โดยพบว่า ชุมชนมีความตระหนักและเห็นความสำคัญของการมีแผนผู้สูงอายุ มีความรู้ความเข้าใจในกระบวนการและขั้นตอนต่างๆในการจัดทำแผน ซึ่งผลที่ปรากฎอย่างเป็นรูปธรรมในพื้นที่ตำบลบางจะเกร็ง คือ 1) ตำบลบางจะเกร็งมีคู่มือสำหรับการจัดทำฐานข้อมูลจำนวน 1 เล่ม 2) ชุมชนมีคู่มือการจัดทำแผนผู้สูงอายุระดับชุมชน จำนวน 1 เล่ม และ 3) เทศบาลตำบลบางจะเกร็งมีแผนส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ 1 ฉบับ ซึ่งแผนฯฉบับดังกล่าวนี้ได้ผ่านการรับรองจากผู้บริหารเทศบาล ภาคส่วนต่างๆในชุมชน และประชาชนในตำบลบางจะเกร็งเรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้เทศบาลตำบลบางจะเกร็งสามารถบริหารจัดการงานด้านผู้สูงอายุได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และจะเป็นการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในชุมชนได้อย่างแท้จริง