การทำกิจกรรมและสนับสนุนการวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสังเคราะห์และถอดบทเรียนนโยบายการดูแลผู้สูงอายุทุกกลุ่มของเทศบาลนครเชียงราย อันประกอบด้วย ผู้สูงอายุกลุ่มติดสังคม ผู้สูงอายุติดบ้านและกลุ่มติดเตียงของเทศบาลนครเชียงราย นครแห่งความสุข เพื่อจัดทำชุดความรู้จากประสบการณ์ในการพัฒนานโยบายเพื่อการดูแลผู้สูงอายุทุกกลุ่มวัยของเทศบาลนครเชียงราย นครแห่งความสุข และเพื่อจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายเกี่ยวกับการดูแลผู้สูงอายุทุกกลุ่มวัยในเขตเมืองขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กลุ่มตัวอย่างที่ทำกิจกรรมในครั้งนี้ได้แก่ ผู้สูงอายุในเทศบาลนครเชียงราย จำแนกเป็น กลุ่มผู้สูงอายุติดสังคม จำนวน 1,996 คน และกลุ่มผู้สูงอายุกลุ่มติดบ้านและกลุ่มติดเตียงจำนวน 131 ราย การดำเนินการในครั้งนี้ เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (Participatory Action Research : PAR) ในพื้นที่เทศบาลนครเชียงราย
ผลการจากทำกิจกรรม พบว่า จากบริบทของสังคมสูงวัยทำให้เทศบาลนครเชียงรายจึงมีนโยบายที่จะพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ เพื่อรองรับการเข้าสู่ยุคผู้สูงอายุสมบูรณ์ โดยได้วางระบบการพัฒนาผู้สูงอายุ การออกแบบกิจกรรมเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุและการเป็นเมืองสุขภาพที่เน้นให้ผู้สูงอายุมีสุขภาพที่ดีทั้งร่างกาย จิตใจ สังคมและปัญญาเป็นสำคัญ การขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าว ได้มีการดำเนินโครงการผ่าน 2 โครงการหลักได้แก่
- โครงการมหาวิทยาลัยวัยที่สามนครเชียงราย เพื่อเป็นศูนย์กลางการพัฒนากระบวนการเรียนรู้และสังคมผู้สูงอายุเพื่อแก้ไขปัญหาด้านสังคมของผู้สูงอายุ ตลอดจนการสร้างสังคมของผู้สูงอายุให้มีลักษณะเอื้ออาทรต่อกัน มีความเข้าใจกันลดความเหลื่อมล้ำและความเสมอภาคทางสังคมร่วมกัน โดยกลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมกิจกรรมเป็นกลุ่มผู้สูงอายุติดสังคม
- โครงการศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุและผู้พิการ เพื่อเป็นการทำงานดูแลผู้สูงอายุเชิงรุกทั้งผู้สูงอายุติดเตียง ติดบ้านและติดสังคม ซึ่งเป็นการเน้นให้เกิดการดูแลผู้สูงอายุโดยครอบครัวและเกิดการปรับตัวยอมรับการอยู่ร่วมกัน ระหว่างผู้สูงอายุและบุคคลทั่วไปในครอบครัว และสังคมเป็นต้น โดยกลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมกิจกรรมเป็นกลุ่ม ผู้สูงอายุติดบ้านและติดเตียง
การดำเนินการโครงการของทั้ง 2 โครงการได้สร้างระบบการบริหารจัดการแบบใหม่ โดยใช้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมขับเคลื่อนและดำเนินงานเองด้วยจิตอาสา ในขณะเทศบาลนครเชียงรายและหน่วยงานภายนอกทำหน้าที่เป็นผู้ให้การสนับสนุนและอำนวยความสะดวกเท่านั้น จากการประเมินผลลัพธ์ของนโยบายการดูแลผู้สูงอายุ พบว่า การประเมินก่อนการดำเนินกิจกรรมลักษณะการทำกิจกรรมของผู้สูงอายุเป็นการรวมกลุ่มทำกิจกรรมเฉพาะกลุ่ม เนื่องจากสังคมเมืองทำให้มีลักษณะต่างคนต่างอยู่ขาดการร่วมกลุ่มกัน แต่เมื่อเข้าไปสังเกตการณ์และสัมภาษณ์ผู้สูงอายุในชุมชนร่วมกับทางเทศบาลนครเชียงราย พบว่าผู้สูงอายุมีการทำกิจกรรมร่วมกันอยู่บ้าง แต่การรวมกลุ่มทางสังคมมีลักษณะที่มีความเหลื่อมล้ำ มีการติดต่อกันเฉพาะกลุ่ม ไม่มีกิจกรรมทางสังคมให้ผู้สูงอายุในแต่ละกลุ่มทำร่วมกัน อีกทั้งจำนวนผู้สูงอายุที่อยู่ลำพัง และผู้สูงอายุที่อยู่กันแบบสองสามีภรรยาเริ่มสูงขึ้น การประเมินระหว่างการดำเนินกิจกรรม พบว่าผู้สูงอายุที่เข้าร่วมทำกิจกรรมของมหาวิทยาลัยวัยที่สามนครเชียงราย มีความพึงพอใจระดับดีมากทุกวิชา อัตรามีเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยวัยที่สามเพิ่มขึ้นอย่างต่อ ทำให้ปัจจุบันมีผู้สูงอายุเข้ามาร่วมกิจกรรมแล้วทั้งหมด 4 รุ่น จำนวนทั้งสิ้น 1,996 คน ในส่วนการประเมินผลระหว่างทำกิจกรรมของศูนย์พัฒนาคุณภาพผู้สูงอายุและผู้พิการ มีการประเมินความสามารถในการทำกิจวัตรประจำวัน (ADL) พบว่าผู้สูงอายุที่มารับบริการที่สูงมีสภาพร่างกายดีขึ้น คิดเป็นร้อยละ 70 ในขณะที่กลุ่มผู้สูงอายุที่เข้าร่วมโครงการการติดตามเยี่ยมบ้านคนไข้ ร้อยละ 22 มีอาการดีขึ้น และร้อยละ 41 สามารถดูแลให้ผู้สูงอายุคงสภาพเดิมได้
หลังการดำเนินโครงการ พบว่าผลลัพธ์นโยบายการดูแลผู้สูงอายุทุกกลุ่มของเทศบาลนครเชียงรายนั้น ส่งผลทั้งในระดับบุคคลผู้สูงอายุมีสุขภาพที่ดีการมีเจตคติต่อการดูแลสุขภาพระดับบุคคลดีขึ้น ด้านจิตใจนั้นทำให้รู้สึกว่าตนเองมีคุณค่าและยังช่วงลดช่องว่างทางสังคมระหว่างผู้สูงอายุที่มีหลากหลายด้านสถานะทางสังคม และมีความหลากหลายทางด้านเศรษฐกิจ ผ่านกิจกรรมของมหาวิทยาลัยส่งผลให้ผู้สูงอายุรู้สึกถึงคุณค่าของตนเองทั้งจากความรู้สึกภายในตนเองและการแสดงออกของบุคคลอื่นต่อตนเอง ผลที่เกิดขึ้นระดับครอบครัว พบว่าจากการที่เจตคติของผู้สูงอายุเปลี่ยนแปลงที่รู้สึกว่าผู้สูงอายุที่มีคุณค่าและมีพลัง ทำให้ความสัมพันธ์ในครอบครัวนั้นดีขึ้น และมีความเข้าใจสังคมในปัจจุบันมากขึ้น ในขณะที่ครอบครัวที่ต้องดูแลผู้สูงอายุติดบ้านติดเตียงมีความรู้และทักษะในการดูแลผู้สูงอายุ มีที่ปรึกษาให้คำแนะนำ ลดภาวะและเกิดความมั่นใจในการให้การดูแลรวมทั้งลดความขัดแย้งในครอบครัวไม่เกี่ยงกันเองในการดูแลผู้สูงอายุ ผลที่เกิดขึ้นทางสังคม การรวมกันของผู้สูงอายุโดยผ่านกลไกการดำเนินการของมหาวิทยาลัยฯนั้นเป็นการรวมกันโดยสมัครใจ ผู้ที่เข้ามาเรียนรู้แม้จะมีความแตกต่างแต่ก็สามารถปรับตัวเข้าหากันและกันได้ อีกทั้งยอมรับความแตกต่างทางความคิดได้ ในขณะที่การดูแลผู้สูงอายุจากศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุและผู้พิการนั้น ทำให้เกิดนวัตกรรมการดูแลผู้สูงอายุแบบใหม่ที่มีการจัดทำโดยผู้ที่มีความรู้และความเชี่ยวชาญ และขยายผลไปถึงผู้ที่ดูแลผู้สูงอายุในครัวเรือน อีกทั้งมีการนำใช้เทคโนโลยีในการดูแลผู้สูงอายุอีกด้วย สำหรับผลที่เกิดขึ้นจากมิติทางชุมชน ผู้สูงอายุที่เข้าร่วมเรียนรู้ในมหาวิทยาลัยวัยที่สาม มีเจตคติที่ดีต่อชุมชน มีความเป็นจิตอาสาเพิ่มขึ้น และมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนตามกำลังความสามารถของตนเพิ่มขึ้นในขณะที่ศูนย