งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อออกแบบและสร้างอุปกรณ์ตรวจวัดสารระเบิดหลายชนิดในเวลาเดียวกันโดยอาศัยถาดหลุมชนิด 96 หลุมสำหรับการตรวจวัดสารระเบิดหลายชนิดและหลายตัวอย่างในเวลาเดียวกัน เพื่อให้ใช้งานได้ง่าย ทราบผลรวดเร็ว และสามารถนำไปประยุกต์ใช้สำหรับวิเคราะห์หาปริมาณของสารระเบิดในงานทางด้านนิติวิทยาศาสตร์ได้ โดยการตรวจวัด 2,4,6-ไตรไนโตรโทลูอีน (TNT) จะใช้หลักการเกิดปฏิกิริยาระหว่าง TNT กับโพแทสเซียมไฮดรอกไซด์ที่ถูกกักในเจลโดยสารละลายเปลี่ยนจากใสไม่มีสีไปเป็นสีแดงอมน้ำตาล สำหรับการตรวจวัด 2,4-ไดไนโตรโทลูอีน (DNT) จะใช้หลักการเกิดปฏิกิริยาระหว่าง DNT กับโพแทสเซียมไฮดรอกไซด์ที่ถูกกักในเจล โดยสารละลายเปลี่ยนจากใสไม่มีสีไปเป็นสีน้ำเงิน ส่วนการตรวจวัดโซเดียมไนไตรท์ใช้หลักการเกิดปฏิกิริยาระหว่างไนไตรท์กับกรดซัลฟิวริกและโพแทสเซียมไอโอไดด์ที่ถูกกักในเจล โดยสารละลายเปลี่ยนจากใสไม่มีสีไปเป็นสีเหลือง สำหรับการตรวจวัดเปอร์คลอเรตใช้หลักการเกิดปฏิกิริยาระหว่างเปอร์คลอเรตกับเมทิลีน บลูที่ถูกกักในเจล เกิดผลิตภัณฑ์ตะกอนสีม่วงจากสารละลายสีน้ำเงิน โดยจะศึกษาประสิทธิภาพของวิธีวิเคราะห์ที่พัฒนาขึ้นโดยการศึกษา ช่วงความเป็นเส้นตรง ขีดจำกัดการตรวจวัด ความเที่ยงของวิธี ความจำเพาะ ความแม่นยำของวิธี และจะนำ “อุปกรณ์ตรวจวัดสารระเบิดหลายชนิดในเวลาเดียว” ที่ได้พัฒนาขึ้นนี้ไปทดสอบประสิทธิภาพในการใช้งานจริงโดยผู้ใช้งานจริงจากศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 ซึ่งคาดว่า “อุปกรณ์ตรวจวัดสารระเบิดหลายชนิดในเวลาเดียว” ที่ได้พัฒนาขึ้นนี้มีขนาดเล็กสามารถพกพกได้สะดวก ใช้งานง่าย ราคาถูก รู้ผลรวดเร็ว และสะดวกสำหรับใช้ในสถานที่เกิดเหตุ ที่ซึ่งสามารถตรวจวิเคราะห์หาชนิดของระเบิดได้ในสถานที่เกิดเหตุได้ทันที