ไฟป่าส่งผลกระทบถึงทรัพยากรธรรมชาติ
และสุขภาพของประชาชนด้วย ในงานวิจัยนี้พัฒนาระบบเฝ้าระวังไฟป่าอัจฉริยะโดยใช้เทคโนโลยีประสานสรรพสิ่ง
(IoT) ซึ่งอยู่บนแพลตฟอร์ม
CANARIN ร่วมกับการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) โดยมีผลการวิจัยตามวัตถุประสงค์การวิจัยสรุปได้ดังนี้
1.
คณะผู้วิจัยได้ศึกษาสภาพภูมิประเทศ และภูมิอากาศ ในพื้นที่วิจัย
เพื่อทำการติดตั้งต้นแบบการเฝ้าระวังการเกิดไฟป่าบริเวณแนวกันไฟ
โดยทำการติดตั้งโหนดเซ็นเซอร์พร้อมระบบพลังงานแสงอาทิตย์และเครือข่าย 3G/4G
จำนวน 5 แห่งคือ 1) ม่อนห้วยปู (ห้วยปูโจ๊ะ)
2) ภูหวาย (เก่โจ๊ะ) 3) บวกตองตึง (โน๋ะ หละ เทอ) 4) จอมปลวกทำบุญ (โหน่มาบุ) และ 5)
ต่าเดโด่ ทั้งนี้ชุมชนและเจ้าหน้าที่จากสถานีควบคุมไฟป่าสามารถวิเคราะห์สถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลาโดยใช้แผนที่บนแพลตฟอร์ม
CANARIN
2. พัฒนาแบบจำลอง (Model) ที่เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่ที่ทำการวิจัย
ตลอดจนปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเฝ้าระวังไฟป่าโดยใช้ข้อมูลจากพื้นที่ใกล้เคียงและข้อมูลจำนวนจุดความร้อน
(Hotspots) จากดาวเทียม VIIRS เมื่อพบสถานการณ์ที่อาจมีผลต่อการเกิดไฟป่าโดยพิจารณาจากค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก
PM2.5 และคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) หากเกินค่าที่กำหนดจะแจ้งเตือนไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องและชุมชนเพื่อจะได้ทำการดับไฟได้อย่างทันท่วงทีโดยใช้แอปพลิเคชันไลน์บนโทรศัพท์เคลื่อนที่และทางอินเทอร์เน็ต
3.
บูรณาการและสร้างเครือข่ายในการเฝ้าระวังไฟป่ากับโครงการวิจัยอื่นที่เกี่ยวข้อง
ประกอบด้วยโครง การ STIC-ASIA: SEA-HAZEMON (Low-cost Real-time Monitoring
of Haze Air Quality Disasters in Rural Communities in Thailand and Southeast
Asia) และโครงการ SEA-HAZEMON@TEIN โดยติดตามคุณภาพอากาศในประเทศไทย
สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ฟิลิปปินส์ และอินโดนิเชีย
ผ่านระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ในแพลตฟอร์ม CANARIN ซึ่งทำให้การแจ้งเตือนมีประสิทธิภาพ
4. ถ่ายทอดองค์ความรู้ในการใช้
และบำรุงรักษาระบบแก่บุคลากรของสถานีควบคุมไฟป่า ตลอดจนชุมชนเพื่อให้มีส่วนร่วมในการเฝ้าระวังไฟป่าและการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้
โดยใช้การสัมมนาเชิงปฏิบัติการการอบรม และจัดทำสื่อการสอนดิจิทัล (e-Learning) เพื่อถ่ายทอดความรู้ให้ผู้เกี่ยวข้อง
ปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงานวิจัยคือสภาพภูมิอากาศที่มีเมฆหมอกปกคลุม
โดยเฉพาะในฤดูฝนทำให้แผงเซลล์แสงอาทิตย์ผลิดกระแสไฟฟ้าไม่เพียงพอต่อการประจุลงในแบตเตอรี่
ทำให้ต้องเพิ่มแผงเซลล์แสงอาทิตย์ให้มีกำลังไฟฟ้ามากขึ้น และริดกิ่งไม้ที่บดบังแสงแดด
รวมถึงการบำรุงรักษาตามระยะเวลา นอกจากนี้ยังมีปัญหาอายุการใช้งานเพ็กเกจซิมโทรศัพท์เคลื่อนที่ของผู้ให้บริการ
3G/4G
ซึ่งทางคณะผู้วิจัยกำลังพัฒนาระบบเครือข่ายไร้สาย LoRaWAN
(Low-Power Wide-Area Network) มาทดแทน
จากการติดตามและประเมินผลภาพรวม
และความพึงพอใจในการใช้ระบบพบว่าชุมชนมีความพึงพอใจในการใช้ระบบ มีความรู้
ความเข้าใจในการใช้อุปกรณ์ได้เป็นอย่างดี สามารถดูแล บำรุงรักษาอุปกรณ์
และแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้ ทำให้การเฝ้าระวังไฟป่าในพื้นที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
โดยเฉพาะพื้นที่ที่ยากต่อการเข้าถึง ซึ่งจะมีการปรับปรุงประสิทธิภาพของแบบจำลองในช่วงฤดูไฟป่า
นอกจากประโยชน์ที่ได้รับจากการจัดการไฟป่าแล้ว
โครงการวิจัยนี้ยังส่งผลในเชิงเศรษฐกิจด้วย เนื่องจากดอยช้างป่าแป๋ อำเภอบ้านโฮ่ง
จังหวัดลำพูน เป็นแหล่งปลูกกาแฟพิเศษที่มีชื่อเสียงระดับโลก และยังเป็นเขตวัฒนธรรมพิเศษ
เขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยว Unseen ของจังหวัดลำพูนด้วย ดังนั้นการจัดการไฟป่าที่มีประสิทธิภาพจากระบบที่พัฒนาขึ้นจะสามารถสร้างความมั่นคงในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติของประเทศได้
คำสำคัญ: แบบจำลองการเกิดไฟป่า, ระบบเฝ้าระวังการเกิดไฟป่า, อินเทอร์เน็ตประสานสรรพสิ่ง