การบริหารโครงการชลประทานทุกโครงการมีปัจจัยมากมายที่จะมีผลให้การจัดการน้ำของโครงการประสบผลสำเร็จหรือล้มเหลว เพื่อเป็นแนวทางให้เลือกปฏิบัติหรือแก้ไข อันจะเป็นผลให้โครงการชลประทานนั้นเพิ่มระดับความสำเร็จในการจัดสรรน้ำให้แก่เกษตรกรอย่างทั่วถึง ยุติธรรมและบรรลุเป้าหมายที่จะทำให้เกษตรกรมีรายได้และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นต่อไป
การจัดการน้ำชลประทานในโครงการชลประทานขนาดกลางและขนาดใหญ่ของรัฐ นับว่าเป็นเรื่องใหม่เมื่อเทียบกับวิวัฒนาการด้านการชลประทานแบบสมัยใหม่ซึ่งได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องนับจากหลังสงครามโลกครั้งที่สองเป็นต้นมา ในอดีตกรมชลประทานมักจะคาดหวัง เมื่อได้ก่อสร้างโครงการชลประทานเสร็จเรียบร้อยและสามารถส่งน้ำเข้าคลองได้แล้วเกษตรกรก็จะขุดคูรับน้ำไปให้เองจากคลองที่กรมชลประทานขุดขึ้นและจะดูแลคูที่ตนขุดให้สามารถรับน้ำไปใช้ได้ตลอดไป นอกจากนั้น ยังคาดหวังอีกว่า เกษตรกรจะมีส่วนร่วมในการดูแลบำรุงรักษาระบบส่งน้ำที่กรมชลประทานสร้างขึ้นอีกด้วย ความคาดหวังดังกล่าวนี้ ก่อให้เกิดการละเลยที่จะเร่งรัดให้โครงการนั้นบรรลุผลตามที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ รวมทั้งการจัดสรรงบประมาณเพื่อการบำรุงรักษา และการจัดเจ้าหน้าที่ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมมาบริหารจัดการโครงการความสำเร็จของการบริหารจัดการน้ำโครงการชลประทานนั้น ขึ้นอยู่กับความสามารถจัดส่งน้ำไปให้ถึงพื้นที่เพาะปลูกของเกษตรกรอย่างทั่วถึง ในปริมาณและเวลาที่พืชต้องการ อันจะเป็นผลให้ได้ผลผลิตสูงสุดเท่าที่ปัจจัยการผลิตจะอำนวยให้ หัวใจสำคัญที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายนี้ก็คือการร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดระหว่างเกษตรกรผู้ใช้น้ำกับเจ้าหน้าที่ของชลประทานและการประสานงานกันระหว่างหน่วยงานที่สนับสนุนทางผู้วิจัยจึงสนใจในการศึกษาศึกษากระบวนการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ชลประทานฝายเชียงรายเพื่อวิเคราะห์ปัจจัยที่นำไปสู่ความสำเร็จในกระบวนการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่โครงการฝายเชียงรายและนำไปสู่พัฒนากลยุทธ์การบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ชลประทานฝายเชียงราย เพื่อเป็นต้นแบบในการสร้างนโยบายการจัดการน้ำในพื้นที่คณะกรรมการจัดการชลประทานอื่น ๆ ต่อไป