งานวิจัยนี้ได้พัฒนา ระบบการวางแผนการบริโภคอาหารตามหลักโภชนาการสำหรับผู้ป่วยสูงอายุ ในรูปแบบ Web Application ซึ่งเป็นนวัตกรรม Smart Health ที่สามารถแนะนำวัตถุดิบที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ป่วย (ทั้งทางด้านสารอาหารและความคุ้มค่า) โดยระบบประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลักดังนี้
- ระบบต้นแบบแนะนำการวางแผนการบริโภคอาหารตามหลักโภชนาการสำหรับผู้ป่วยและผู้สูงอายุภายในโรงพยาบาล ที่สามารถเลือกวัตถุดิบที่เหมาะสมสำหรับผู้ป่วย เพื่อนำไปวางแผนการบริโภคอาหารตามหลักโภชนาการ ทั้งด้านสารอาหารและความคุ้มค่า รวมถึงการคำนวณปริมาณและต้นทุนของวัตถุดิบที่ใช้
- เพื่อบูรณาการออนโทโลยีสำหรับจัดการองค์ความรู้ทางด้านอาหารและโภชนาการสำหรับผู้สูงอายุและผู้ป่วย ที่เป็นมาตราฐานสากล เข้าใจง่าย และสามารถแชร์ข้อมูลให้กับโรงพยาบาลอื่นนำไปใช้และเข้าถึงได้ง่ายและมีประสิทธิภาพโดยไม่จำเป็นต้องเสียเวลาในการพัฒนาฐานข้อมูลเอง เพื่อนำไปใช้ในการวางแผนการบริโภคอาหารตามหลักโภชนาการสำหรับผู้สูงอายุและผู้ป่วยภายในโรงพยาบาล เช่น องค์ความรู้ทางด้าน ข้อมูลโรค สารอาหารที่จำเป็น และวัตถุดิบที่ใช้ในการประกอบอาหาร มื้ออาหาร ประเภทอาหาร รวมไปถึง การบริหารงานโภชนาการในโรงพยาบาล อาหารและโภชนาการสำหรับการป้องกันและบำบัดโรค เป็นต้น โดยได้ทำการบูรณาการออนโทโลยีให้สอดรับกับระบบของโรงพยาบาลโดยการปรับเปลี่ยนองค์ความรู้ต่างๆให้อยู่ในรูปของฐานข้อมูล เนื่องจากสามารถทำงานได้รวดเร็ว และง่ายต่อการดูแลรักษาของเจ้าหน้าที่ดูแลระบบของโรงพยาบาล
- เพื่อบูรณาการระบบต้นแบบของกระบวนการเลือกวัตถุดิบในการประกอบอาหารที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้สูงอายุและผู้ป่วยภายในโรงพยาบาล ในการทำอาหารให้มีความเหมาะสมทั้งทางด้านคุณค่า(ด้านสารอาหาร) และความคุ้มค่า (ราคา) เช่นเหมาะสมกับโรคที่ผู้ป่วยเป็นสามารถช่วยฟื้นฟูอาการป่วยได้ดี มีสารอาหารจำเป็นที่ร่างกายต้องการครบ และที่สำคัญมีราคาถูกหาง่ายตามท้องตลาดและตามฤดูกาล เพื่อใช้ในการจัดอันดับและแนะนำวัตถุดิบตามความเหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ป่วย
ผลลัพธ์ของงานวิจัยนี้ได้ระบบต้นแบบที่สามารถนำไปใช้จริงในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร โดยที่ 1) ระบบต้นแบบสามารถแนะนำการวางแผนการบริโภคอาหารตามหลักโภชนาการสำหรับผู้ป่วยภายในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร ที่เข้ามารับการรักษาโดยเฉลี่ย 200-300 คนต่อวันได้ 2) ระบบต้นแบบสามารถจัดการองค์ความรู้ทางด้านอาหารและโภชนาการสำหรับผู้ป่วยได้ และ 3) ระบบต้นแบบสามารถการเลือกวัตถุดิบในการประกอบอาหารที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผู้ป่วยภายในโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวรได้ และจากผลการประเมินความพึงพอใจการใช้งานระบบของผู้ใช้ ซึ่งประกอบด้วย นักโภชนาการและผู้ใช้งานที่มีความเกี่ยวข้อง จำนวน 33 คน พบว่า ด้านประสิทธิภาพการทำงานของระบบ ด้านประสิทธิผลของระบบ ด้านความยากง่ายการใช้ระบบ และด้านความปลอดภัยของข้อมูลของระบบอยู่ในเกณฑ์ที่ดีทั้งหมด โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 3.92, 3.88, 3.97 และ 4.03 ตามลำดับ
ผลการวัดประสิทธิภาพทางด้านเวลาการทำงานของระบบต้นแบบของผู้วิจัยเทียบกับกระบวนการทำงานแบบเดิมพบว่า ความเร็วในกระบวนการทำงานของระบบเดิมใช้เวลารวม 61 นาที ส่วนระบบต้นแบบที่ได้พัฒนาใหม่นี้ใช้เวลาในการทำงานรวม 0.21 นาที ซึ่งจะเห็นได้ว่าระบบต้นแบบที่ได้พัฒนาใหม่นี้มีการทำงานได้รวดเร็วมากกว่ากระบวนการทำงานแบบเดิมถึง 300 เท่าโดยประมาณ ในการเปรียบเทียบขั้นตอนการทำงานทั้งหมด