ระบบการรับรองแบบมีส่วนร่วม (พี จี เอส) คือ ระบบรับประกันคุณภาพภายในท้องถิ่น ที่ถูกนำมาใช้ในการรับรองผู้ผลิตและฟาร์มเกษตรอินทรีย์ บนพื้นฐานการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและสร้างขึ้นบนพื้นฐานของความไว้วางใจ เครือข่ายสังคม และการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ พี จี เอส ส่งเสริมสนับสนุนเกษตรกรอินทรีย์รายย่อยและผู้บริโภคทั่วโลก และมีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี ดังนั้นวัตถุประสงค์ของโครงการนี้คือ เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับ พี จี เอส ให้แก่เกษตรกรอินทรีย์รายย่อยที่ยังไม่เข้าสู่ระบบการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ ให้สามารถนำ พี จี เอส ไปประยุกต์ใช้ในการรับรองผลิตผลอินทรีย์ภายในชุมชนเกษตรกรรายย่อย โดยมีกลุ่มเป้าหมายของโครงการคือ เกษตรกรรายย่อยผู้ผลิตข้าวอินทรีย์ในจังหวัดอุบลราชธานีและศรีสะเกษ ผู้ซึ่งยังไม่เข้าสู่ระบบการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ จำนวน 250 คน และเจ้าหน้าที่เกษตรตำบลจำนวน 30 คน เมื่อดำเนินการถ่ายทอดองค์ความรู้ในการริเริ่ม พี จี เอส ภายในชุมชน ให้แก่กลุ่มเป้าหมายพบว่า มีผู้เข้ารับการถ่ายทอดองค์ความรู้ที่เป็นเกษตรกรผู้ผลิตข้าวรายย่อยและยังไม่ได้รับการรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตรอินทรีย์ จำนวน 272 คน และเจ้าหน้าที่เกษตรตำบล จำนวน 46 คน พบว่า ร้อยละ 100 ของผู้เข้ารับการถ่ายทอดองค์ความรู้มีความเข้าใจ พี จี เอส ในระดับมากกว่าร้อยละ 80 และร้อยละ 100 ของผู้เข้ารับการถ่ายทอดองค์ความรู้ที่เป็นเกษตรกรอินทรีย์รายย่อยนั้น นำ พี จี เอส ไปปรับใช้ในชุมชนของเกษตรกรภายใต้การดูแลโดยเจ้าหน้าที่เกษตรตำบล ซึ่งมีบทบาทเป็นพี่เลี้ยง หลังจากที่ชุมชนเกษตรกรรายย่อยใช้ พี จีเอส ในการรับรองผลิตผลอินทรีย์ภายในชุมชนเกษตรกรรายย่อย ทำให้เกษตรกรรายย่อยได้รับการรับรอง
มาตรฐานเกษตรอินทรีย์ จำนวน 155 คน พื้นที่การผลิตได้รับการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ จำนวน3,200 ไร่ ผลิตผลข้าวอินทรีย์ได้รับการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ จำนวน 1,485 ตัน และการรับรองด้วย พี จี เอส นี้ ยังรวมไปถึงการรับรองพืชหลังนาอินทรีย์ ส่งผลให้เกษตรกรรายย่อย ผู้ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานสินค้าเกษตรอินทรีย์ มีรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 ต่อปี อันเนื่องมาจากการลดต้นทุนการผลิตจากการลดการใช้ปุ๋ยเคมี มูลค่า 720 บาท/ไร่/ปี รวมทั้งการเพิ่มขึ้นของราคาผลิตผลอินทรีย์ที่ผ่านการรับรอง ยิ่งไปกว่านั้น
สำนักงานเกษตรจังหวัดอุบลราชธานีส่งเสริมสนับสนุนเกษตรกรรายย่อย ผู้ที่ผ่านการรับรองเรียบร้อยแล้ว ด้วยการจัดตั้งตลาดนัดเกษตรกรในแต่ละอำเภอ อำเภอละ 1 แห่ง รวมทั้งสิ้น 25 แห่ง ส่วนสำนักงานเกษตรจังหวัดศรีสะเกษส่งเสริมสนับสนุนเกษตรกรรายย่อย ด้วยการจัดตั้งตลาดนัดเกษตรกร 1 แห่ง ในอำเภอเมืองศรีสะเกษการติดตามประเมินผลในพื้นที่เป้าหมายของโครงการนี้ พบว่าเกษตรกรรายย่อยอินทรีย์นำ พี จี เอส มาปรับใช้ในการรับประกันคุณภาพผลิตผลอินทรีย์ตามหลักการของพี จี เอส สากล ส่งผลให้เกิดกระบวนการผลิตที่ใช้ต้นทุนต่ำ เป็นระบบนิเวศเกษตรอินทรีย์ เกิดการเชื่อมโยงกับตลาด และเกษตรกรรายย่อยมีคุณภาพชีวิตที่ดี บ่งชี้ให้เห็นว่า โครงการนี้สนับสนุนการพัฒนากระบวนการพี จี เอส ให้เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการรับรองมาตรฐาน
เกษตรอินทรีย์อีกรูปแบบหนึ่ง นอกเหนือจากระบบการรับรองโดยบุคคลที่สาม ในภาคการผลิตแบบเกษตรอินทรีย์ ตลอดจนส่งเสริมสนับสนุนการรับรู้ของรัฐบาลและผู้บริโภคเกี่ยวกับ พี จี เอส