การจัดการภัยพิบัติทั้งภัยจากมนุษย์และธรรมชาติในพื้นที่ความมั่นคงยังมีความท้าทายสำหรับผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ แต่ยังขาดการนำเครื่องมือหรือนวัตกรรมการป้องกันดูแลและช่วยเหลือมาใช้และการให้ความสำคัญกับสุขภาพจิตของผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ จากงานวิจัยที่ผ่านมาพบว่า ผู้ปฏิบัติงานในสถานการณ์ฉุกเฉินและภัยพิบัติ มักเกิดปัญหาสุขภาพจิตอันเนื่องจากการสั่งสมความเครียดจากเหตุการณ์ เช่น ภาวะ burnout, post-traumatic stress disorder (PTSD), depression, และ anxiety เช่นเดียวกับเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลาตลอดระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในระบบการแพทย์ฉุกเฉินอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นโครงการนี้จึงบูรณาการองค์ความรู้จากทุกภาคส่วน โดยการสังเคราะห์องค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการป้องกันปัญหาสุขภาพจิตสำหรับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในระบบการแพทย์ฉุกเฉินและภัยพิบัติเพื่อนำสู่การพัฒนารูปแบบการป้องกันปัญหาสุขภาพจิตสำหรับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในระบบการแพทย์ฉุกเฉินและภัยพิบัติอย่างครบวงจร และเพิ่มระบบติดตามและประเมินผลกระบวนการนำองค์ความรู้ไปใช้ในการป้องกันปัญหาสุขภาพจิตสำหรับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในระบบการแพทย์ฉุกเฉินและภัยพิบัติ
กลุ่มเป้าหมายจะเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานทุกระดับในระบบการแพทย์ฉุกเฉินและภัยพิบัติในพื้นที่ความมั่นคง ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา รวม 400 คน จังหวัดละ 100 คน โดยการคัดเลือกแบบสะดวกและเต็มใจที่จะได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้ โดยการ
- จัดค่ายอบรมเชิงปฏิบัติการการประเมิน และวิเคราะห์ปัญหาสุขภาพจิต วิธีการป้องกัน ดูแลและช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมาย
- ติดตามเยี่ยมต้นแบบพื้นที่ที่ประสบความสำเร็จด้านการป้องกันปัญหาสุขภาพจิต
- จัดเวที/ประชุมแลกเปลี่ยนเพื่อจัดทำแผนพัฒนาและข้อเสนอเชิงนโยบายด้านสุขภาพจิตสำหรับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่
ผลลัพธ์ที่จะได้รับ คือ เกิดระบบการดูแลและเยียวยาสุขภาพจิตสำหรับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในระบบการแพทย์ฉุกเฉินและภัยพิบัติจากการขยายองค์ความรู้ด้านการป้องกันปัญหาสุขภาพจิตอย่างเป็นองค์รวม เพื่อลดปัญหาสุขภาพจิต เพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ให้บริการสุขภาพ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความยั่งยืนของการดูแลผู้ป่วยในพื้นที่ความมั่นคง