การวิจัยนี้เป็นการจัดการความรู้อย่างเป็นระบบในการผลิต การแปรรูปและการบริหารจัดการเชิงธุรกิจเพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีให้กับกลุ่มผู้ผลิตข้าวปิ่นเกษตร ในการเรียนรู้และขับเคลื่อนผ่านกระบวนการกลุ่มโดยชุมชนเพื่อชุมชนตามต้นแบบโมเดลข้าวกำแพงแสน มก.กพส. ดำเนินโครงการในพื้นที่ภาคตะวันตก ภาคกลางตอนบน และภาคใต้ 7 จังหวัด จำนวนเกษตรกรเข้าร่วมโครงการ 269 ราย รวมรวมข้อมูลการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นและใช้เครื่องมือในการติดตามประเมินผลก่อนและหลังการขับเคลื่อนการพัฒนา ใช้โปรแกรมสถิติสำเร็จรูปทางสังคมศาสตร์วิเคราะห์และจัดการข้อมูลอย่างเป็นระบบเพื่อศึกษาความสำเร็จ
ผลการดำเนินงานโครงการฯ พบว่ามีการจัดการองค์ความรู้อย่างเป็นระบบใน “การผลิตข้าวปิ่นเกษตรคุณภาพและการบริหารจัดการเชิงธุรกิจ” และจัดทำจัดพิมพ์คู่มือถ่ายทอดองค์ความรู้ มีการจัดกิจกรรมถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยี และขับเคลื่อนการส่งเสริมและพัฒนาด้วยกระบวนการกลุ่มและการมีส่วนร่วม กลไกสำคัญในการขับเคลื่อนคือการจัดระบบพี่เลี้ยงและที่ปรึกษาเพื่อการผลิต แปรรูป พัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริหารจัดการเชิงธุรกิจเกษตรกรของแต่ละกลุ่มในจังหวัดนครปฐม ราชบุรี ชัยนาท อุทัยธานี นครศรีธรรมราช เพชรบุรีและสิงห์บุรี และมีการรวมกลุ่มจัดกิจกรรมแต่ละจังหวัดเป็นศูนย์การเรียนรู้ 7 ศูนย์ โดยมีการขับเคลื่อนการพัฒนาและสร้างเครือข่ายร่วมกันของผู้เข้าร่วมโครงการทั้งหมดอย่างเป็นระบบ ผลจากการวิจัยสร้างการเปลี่ยนแปลง สร้างโอกาสและสร้างรายได้ มีเกษตรกร 7 จังหวัดร่วมผลิตข้าวปิ่นเกษตรคุณภาพในพื้นที่กว่า 2,500 ไร่ มีผลผลิตเมล็ดพันธุ์กว่า 46 ตัน มูลค่ากว่า 920,000 บาท ผลผลิตข้าวเปลือกคุณภาพกว่า 2,000 ตัน มูลค่ากว่า 20 ล้านบาท และเกิดธุรกิจแปรรูปข้าวสารมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท มีการปลูกถั่วเขียวหลังนากว่า 1,000 ไร่ ทำให้เกษตรกรมีการลดต้นทุนได้มากขึ้น สร้างรายได้จากการผลิตข้าวปิ่นเกษตรคุณภาพต่อไร่สูงขึ้น และสร้างรายได้จากอาชีพเสริมพืชหลังนาและพืชคู่นามากขึ้น เกษตรกรได้เรียนรู้และพัฒนาร่วมกันในการแปรรูปผลผลิตและพัฒนาผลิตภัณฑ์ และมีการสร้างเครือข่ายตลาดร่วมกับภาคประชาชน รัฐ และเอกชน และจากผลการประเมินก่อนและหลังโคงการพบว่ากลุ่มเกษตรกรมีความรู้และมีการนำไปใช้ประโยชน์ และมีการทำงานร่วมกันของกลุ่มและการบริหารจัดการเชิงธุรกิจร่วมกันเพิ่มขึ้น และมีความพึงพอใจในการเข้าร่วมโครงการวิจัยในระดับมาก (2.43) แนวทางการวิจัยและพัฒนา ควรมีการขยายผลการส่งเสริมและการพัฒนาระบบกลุ่มและการจัดระบบพี่เลี้ยงซึ่งเป็นการโมเดลที่สร้างความเข้มแข็งในการพัฒนาสู่ความยั่งยืน และควรศึกษาและพัฒนาร่วมกับเอกชนในการผลิตและการจัดการเชิงธุรกิจข้าวปิ่นเกษตรให้มากขึ้น เพราะได้รับความสนใจและต้องการขยายธุรกิจทั้งตลาดในประเทศและสู่ตลาดต่างประเทศ