โครงการวิจัยการถ่ายทอดองค์ความรู้ การวาดภาพหุ่นนิ่งและภาพคนเหมือนสร้างสรรค์สำหรับกลุ่มผู้พิการและผู้ด้อยโอกาส เป็นโครงการวิจัยที่มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมและพัฒนาองค์ความรู้ การจัดการเรียนรู้ด้านศิลปศาสตร์ศาสตร์ โดยใช้งานวิจัยเป็นฐานการส่งเสริมและพัฒนาการเรียนรู้ทางด้านศิลปะ และเชื่อว่าการถ่ายทอดองค์ความรู้นั้นมีส่วนสำคัญในการจัดการเรียนรู้ให้กับกลุ่มผู้พิการและกลุ่มผู้ด้อยโอกาสได้ดี อีกทั้งการสร้างสรรค์งานศิลปะยังเป็นการบำบัด ฟื้นฟู สภาพจิตใจ ของผู้พิการและผู้ด้อยโอกาส โดยใช้เทคนิค วิธีการสร้างสรรค์การวาดภาพหุ่นนิ่ง และวาดภาพใบหน้าคนสร้างสรรค์ เป็นหัวข้อในการเรียนรู้และพัฒนาผู้เรียนให้บรรลุจุดประสงค์การเรียนรู้ได้จริง และสามารถบูรณาการการสอนให้แก่กลุ่มผู้พิการและบุคคลอื่น ๆ ที่สนใจต่อไปได้ โดยผู้วิจัยได้ศึกษาหาข้อมูลต่าง ๆ และดำเนินการประสานวิทยากรผู้มีความชำนาญมาถ่ายทอดองค์ความรู้และดำเนินการจัดกิจกรรมถ่ายทอดองค์ความรู้ ฯ ให้แก่กลุ่มผู้สนใจ จำนวน 3 กลุ่ม คือ
- กลุ่มบุคคลทั่วไปที่สนใจ
- กลุ่มผู้พิการและด้อยโอกาส ณ มูลนิธิวิถีชีวิตอิสระคนพิการ จังหวัดนครปฐม
- กลุ่มเด็กและเยาวชน ณ สถานสงเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถี
ให้สามารถสร้างสรรค์ผลงานของตนเองได้อย่างมีความสุข และสามารถนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์และต่อยอดไปสู่การมีรายได้ต่อไป โดยผู้วิจัยได้วิเคราะห์ สังเคราะห์จากการถ่ายทอดองค์ความรู้ดังกล่าวมาเรียบเรียง เพื่อจัดพิมพ์เป็นหนังสือคู่มือ ฯ ขนาดเล่ม A5 จำนวนพิมพ์ 200 เล่ม ชื่อ “คู่มือองค์ความรู้การวาดภาพหุ่นนิ่งและภาพคนเหมือนสร้างสรรค์สำหรับกลุ่มผู้พิการและผู้ด้อยโอกาส” จัดทำโดย โครงการวิจัยการถ่ายทอด องค์ความรู้การวาดภาพหุ่นนิ่งและภาพคนเหมือนสร้างสรรค์สำหรับกลุ่มผู้พิการและผู้ด้อยโอกาส ผู้เรียบเรียง นางสาวสุทธาสินีย์ สุวุฒโฑ หน่วยงานที่สังกัด สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรม สนับสนุนโดย สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ซึ่งเป็นนวัตกรรมในการเรียนรู้ที่ได้จากการวิเคราะห์ สังเคราะห์ จากการถ่ายทอดองค์ความรู้จากวิทยากรที่ได้ถ่ายทอดความรู้ เพื่อประโยชน์ในการเรียนรู้และเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจแก่การเรียนรู้ต่อทุกกลุ่ม และนำมาขยายผลถ่ายทอดให้แก่กลุ่มเป้าหมาย พร้อมเผยแพร่หนังสือคู่มือการเรียนรู้ ฯ ดังกล่าวไปยังหน่วยงานที่พัฒนาเด็ก เยาวชน ผู้พิการและผู้ด้อยโอกาส ตลอดจนผู้เข้าอบรมและผู้สนใจ พร้อมวิเคราะห์และประเมินผลความพึงพอใจ โดยอาศัยเครื่องมือการวิจัย ประมวลภาพ แบบสังเกตการณ์ รวมถึงแบบสอบถามมาประกอบการประเมินผล ตลอดจนสรุปผลการดำเนินงานดังกล่าว ซึ่งผลประเมินทุกกลุ่มมีความพึงพอใจต่อถ่ายทอดองค์ความรู้ ฯ ที่จัดขึ้น ได้ค่าความหมายในภาพรวมอยู่ในระดับความพึงพอใจมากที่สุด ซึ่งผู้วิจัยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้มีโอกาสเผยแพร่หนังสือคู่มือองค์ความรู้ ฯ นี้ให้แก่ผู้สนใจได้อย่างทั่วถึง