การจัดการองค์ความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านเครื่องปั้นดินเผาแบบรากุ เพื่อผลิตของที่ระลึกส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม สาหรับชุมชนเลี้ยงช้าง บ้านตากลาง ตาบลกระโพ อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ โดยมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อจัดการองค์ความรู้ภูมิปัญญาท้องถิ่น จากผลการวิจัยที่สัมฤทธิ์ผลแล้วไปพัฒนาและ ถ่ายทอดเป็นอาชีพศิลปหัตถกรรมเครื่องปั้นดินเผาแบบรากุ ให้กับชุมชนในพื้นที่ บ้านตากลาง ตำบลกระโพ อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ 2) พัฒนากระบวนการผลิตเพื่อต่อยอดและถ่ายทอดการทำเครื่องปั้นดินเผาแบบรากุเป็นของที่ระลึกสาหรับชุมชนเลี้ยงช้างให้สามารถผลิตได้จริงเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม 3) บูรณาการการวิจัย การเรียนการสอน และการบริการวิชาการ โดยการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับภูมิปัญญาท้องถิ่น ระหว่างนักวิจัย กลุ่มผู้ผลิต ชุมชนเป้าหมาย ภาคีเครือข่ายด้านการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและนักศึกษาสาขาวิชาเทคโนโลยีเซรามิกซ์และการออกแบบ โดยนำผลของการวิจัยที่สัมฤทธิ์ผลแล้วมาถ่ายทอดให้สามารถผลิตได้จริงเป็นสินค้าส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม เพื่อเป็นประโยชน์เชิงพาณิชย์และสาธารณะ
ในระหว่างการดำเนินงาน คณะดำเนินงานประสบปัญหาในเรื่องของการลงพื้นที่ปฏิบัติงาน เนื่องจากเป็นช่วงสถานการณ์โรคระบาดโควิด 19 เมื่อสถานการณ์เบาลงในช่วงแรก จึงได้ดำเนินงานโดยการ เตรียมความพร้อมทั้งด้านวัสดุ เครื่องมืออุปกรณ์ที่จำเป็นในกระบวนการผลิตเครื่องปั้นดินเผาแบบรากุ รวมถึงการออกแบบ การทาผลิตภัณฑ์ต้นแบบของที่ระลึกสำหรับหมู่บ้านช้าง และเตรียมความพร้อมสำหรับดำเนินการฝึกอบรม การถ่ายทอดฝึกทักษะกระบวนการผลิตเครื่องปั้นดินเผาแบบรากุทั้งกระบวนการเป็นแบบกลุ่มย่อย ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาได้ในระดับหนึ่ง และเมื่อได้ผลงานที่สำเร็จออกมา ในช่วงที่คณะนักวิจัยร่วมกันวิเคราะห์ผลงานนั้น มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจที่จะขอซื้อผลงานเป็นจำนวนมาก หากแต่ผลงานยังมีปริมาณที่จำกัด ประกอบกับผู้เข้าร่วมรับการฝึกอบรมต่างก็ต้องการเก็บสะสมผลงานชุดแรกของตนเองเอาไว้ และนอกจากนั้น คณะนักวิจัยได้ทาผลิตภัณฑ์ต้นแบบของที่ระลึกสำหรับหมู่บ้านช้าง ทำการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบและทดลองประเมินผลิตภัณฑ์ต้นแบบ โดยการนำไปแสดงผลงานใน “มหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์” ซึ่งเป็นงานประจำปีของจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 12 – 23 พฤศจิกายน 2563
คณะดำเนินงานและผู้เข้าร่วมอบรมในโครงการคาดการณ์ว่าหากสถานการณ์โรคระบาดโควิด 19 ลดน้อยลงแล้วนั้น จะสามารถฝึกอบรมพัฒนาผลงานและผลิตได้ตามเป้าหมาย การจำหน่ายผลงานของที่ระลึกสำหรับศูนย์คชศึกษา เป็นอีกทางเลือกหนึ่งให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งสามารถทำเป็นอาชีพเสริม สร้างรายได้ ให้กับชุมชนอย่างยั่งยืนต่อไป