การศึกษาพบคุณสมบัติของแป้งกล้วยน้ำว้าและแป้งกล้วยเล็บมือนาง พอสรุปได้ดังนี้
- แป้งกล้วยน้ำว้ามีความสว่างกว่าแป้งกล้วยเล็บมือนางเท่ากับ 83.16 ± 0.02 และ 80.36 ± 0.02 ตามลำดับ และแป้งกล้วยน้ำว้าสีแป้งมีลักษณะสีเหลืองมากว่าแป้งกล้วยเล็บมือนางจากค่า b* เท่ากับ 10.70 ± 0.09 และ 10.34 ± 0.05 ตามลำดับ ส่วนแป้งกล้วยเล็บมือนางมีลักษณะสีแดงจะสูงกว่าแป้งกล้วยน้ำว้าจากค่า a* เท่ากับ 8.41 ± 0.06 และ 8.02 ± 0.06 ตามลำดับ
- ปริมาณของความชื้นและไขมันในแป้งกล้วยน้ำว้าสูงกว่าแป้งกล้วยเล็บมือนาง ความชื้นและไขมันในแป้งกล้วยน้ำว้าและแป้งกล้วยเล็บมือนางเท่ากับ 8.96, 0.60, 8.06 และ 0.45 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ แต่พบว่า ปริมาณ โปรตีน เถ้า และเยื่อใยในแป้งกล้วยเล็บมือนาง สูงกว่าแป้งกล้วยน้ำว้า เท่ากับ 5.04, 2.51, 0.55, 2.62, 2.04 และ 0.46 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ
- aw ในแป้งกล้วยเล็บมือนางเท่ากับ 0.38 และในแป้งกล้วยน้ำว้าเท่ากับ 0.37 ซึงต่ำกว่าในแป้งกล้วยเล็บมือนาง และค่า Phenolic และ Amylose ในแป้งกล้วยเล็บมือนางเท่ากับ 291.28 และ 29.50 mg/l และพบในกล้วยน้ำว้าเท่ากับ 170.53 และ 37.95 mg/l ซึ่งพบน้อยกว่า Phenolic ในแป้งกล้วยน้ำว้าน้อยเล็บมือนางนั้นคือ การเตรียมแผ่นกล้วยเล็บมือนางต้องระวังสีจะคล้ำกว่าแป้งกล้วยน้ำว้า แต่มีปริมาณ และ Amylose ในแป้งกล้วยเล็บมือนางจะน้อยกว่าแป้งกล้วยน้ำว้า นั้นคือแป้งกล้วยเล็บมือนางจะมีคุณสมบัติใกล้เคียงแป้งข้าวเจ้า (อะไมโลสเท่ากับ 17-21%) และแป้งข้าวสาลี (อะไมลส 26%) (Kasemsuwan et al., 1999) มากกว่าแป้งกล้วยน้ำว้า
- คุณสมบัติทางกายภาพของแป้งกล้วยกล้วยน้ำว้าและกล้วยเล็บมือนาง พบว่ากล้วยเล็บมือนางมีคุณสมบัติของ water absorption, water solubility และ swelling เท่ากับ 02.73 ± 0.01, 06.54 ± 0.71 และ 13.47 ± 0.08 ในแป้งกล้วยน้ำว้าเท่ากับ 02.45 ± 0.03, 06.36 ± 0.57 และ 10.02 ± 0.20 ตามลำดับ แสดงถึงคุณสมบัติทางกายภาพของแป้งกล้วยกล้วยน้ำว้าและกล้วยเล็บมือนาง มีคุณสมบัติของ water absorption, water solubility ใกล้เคียงกัน แต่คุณสมบัติ swelling แป้งกล้วยน้ำว้าน้อยกว่าแป้งกล้วยเล็บมือนาง
นอกจากนี้ ภาวิณีย์ เจริญยิ่ง (2559) กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ได้ประกาศขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์หรือจีไอ (Geographical Indication : GI) กล้วยเล็บมือนางชุมพรในปี 2559 โดยระบุว่า กล้วยเล็บมือนางชุมพรลักษณะพิเศษคือ ผลเล็ก ปลายผลเรียว เรียงติดกันคล้ายนิ้วมือ ผลและเนื้อมีสีเหลืองทอง เปลือกบาง เนื้อนุ่ม รสหวาน มีกลิ่นหอม ส่วนกล้วยเล็บมือนางชุมพรอบแห้ง เนื้อกล้วยมีสีน้ำตาลนุ่มเหนียวและไม่แห้งจนเกินไป รสชาติหวาน สามารถปลูกและผลิตในพื้นที่จังหวัดชุมพร
ผลิตภัณฑ์ผงกล้วยชงดื่ม เป็นผลิตภัณฑ์จากกล้วยน้ำว้า นำแปรรูปเพื่อเป็นผลิตภัณฑ์กล้วยชงดื่ม ในการวิจัยครั้งนี้จึงศึกษาระยะเวลาในการคืนตัว (rehydration time) และการความคงตัวของผลิตภัณฑ์ด้วยค่าดัชนีการแยกชั้น (separation index : SI) ด้วยการศึกษาระดับของการใช้แซนแทนกัมที่ระดับ 0, 0.25, 0.5, 0.75 และ 1% ของส่วนผสมร่วมกับผงลูกเดือยชนิดดิบ และคั่ว ในระดับ 0, 9.25, 9.50, 9.75 และ 10% นำผงกล้วยชงดื่ม 20 กรัมผสมกับน้ำร้อนที่ 90 องศาเซลเซียส ศึกษาระยะเวลาในการคืนตัวที่ 3, 5, 7 และ 9 พบว่า การคืนตัว มีความแตกต่างทางสถิติ (p ≤ 0.05) จากการผสมที่ 3, 5, 7 และ 9 นาที และไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ (p > 0.05) เมื่อทำการศึกษาดัชนีการแยกชั้น (SI) เพื่อทดสอบคุณสมบัติการคืนตัวโดยการผสมที่ 7 นาที ที่อุณหภูมิห้อง นาน 20 นาที ดัชนีการแยกชั้นมีความแตกต่างทางสถิติ (p ≤ 0.05) พบว่า treatment 6 มีดัชนีการแยกชั้นของผงกล้วยชงดื่มสูงที่สุดเท่ากับ 0.32 รองลงมาคือ treatment 1 และ treatment 7 เท่ากับ 0.18 และ 0.14 ตามลำดับ
ดังนั้นนักวิจัย จัดกิจกรรมถ่ายทอดการผลิตแป้งกล้วยและผลิตภัณฑ์ แก่กลุ่มสมาชิกจากชุมชน จำนวน 2 ชุมชน ประกอบด้วยจังหวัดนครศรีธรรมราช 1 กลุ่ม และจังหวัดชุมพร อีก 1 กลุ่ม ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีพื้นฐานการจัดกิจกรรมด้วยการศึกษาและต่อยอดจากพื้นฐานชุมชนโดยจะใช้แป้งกล้วยน้ำว้าเป็นพื้นฐานสำหรับการวิจัยในครั้งนี้เนื่องจากเป็นกล้วยที่มีทั่วไปและคุณค่าทางอาหารสูง