โครงการการจัดการความรู้การทำนาแปลงใหญ่เพื่อการใช้ประโยชน์เชิงนโยบายสาธารณะ มีวัตถุประสงค์เพื่อ
- รวบรวมและถอดองค์ความรู้การจัดการนาแปลงใหญ่แบบครบวงจร
- วิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการจัดการนาแปลงใหญ่
- จัดทำคู่มือสรุปองค์ความรู้การจัดการนาแปลงใหญ่
ดำเนินงานด้วยการวิจัยเอกสาร ศึกษาบริบทชุมชน สัมภาษณ์เชิงลึก ใช้แบบสอบถาม สนทนากลุ่มและถอดบทเรียนกลุ่มเกษตรกรนาแปลงใหญ่ในพื้นที่ศึกษา 8 ตำบล ใน 4 ภาค
ผลการดำเนินงานที่สำคัญ พบว่า กลุ่มนาแปลงใหญ่เกือบทุกพื้นที่มีประสบการณ์การรวมกลุ่มเพื่อทำการเกษตรก่อนที่จะมีนโยบายนาแปลงใหญ่ เมื่อมารวมกลุ่มทำนาแปลงใหญ่ ส่วนมากจึงช่วยเกื้อหนุนการทำการเกษตรของกลุ่ม อย่างไรก็ตาม มีบางกลุ่มที่แม้จะมีประสบการณ์การรวมกลุ่มแต่ยังไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร สำหรับวิธีการลดต้นทุนการผลิต ด้วยการลดต้นทุนค่าเมล็ดพันธุ์จากการคัดและเก็บเมล็ดพันธุ์ไว้ใช้เองและขายกันในกลุ่ม ทำนาดำช่วยลดอัตราการใช้เมล็ดพันธุ์ ได้รับสนับสนุนเมล็ดพันธุ์จากศูนย์วิจัยข้าว ทำนาหว่านช่วยลดต้นทุนค่าจ้างดำนา ลดต้นทุนค่าเดินทางและค่าขนส่งโดยรวมกันซื้อเมล็ดพันธุ์ข้าว ปุ๋ยและน้ำมัน ลดต้นทุนค่าปุ๋ยเคมีจากการรวมกันไปซื้อ ใช้ปุ๋ยชีวภาพและปุ๋ยหมักที่ทำเอง ใช้ปุ๋ยตามความต้องการของข้าวและเหมาะสมกับดิน และรวมกันจ้างรถเกี่ยวข้าว วิธีการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการแปลงนา ผ่านการตรวจแปลงนาและดูระบบนิเวศในแปลงนา ใช้สารชีวภัณฑ์แทนสารเคมี ไถกลบตอซังฟางข้าว เอาฟางมาทำปุ๋ยและเลี้ยงวัว ปลูกพืชตระกูลถั่ว/ปอเทือง ไถกลบปุ๋ยพืชสด วิธีการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการด้านการตลาด ด้วยการทำ MOU และขายข้าวให้สหกรณ์การเกษตรในพื้นที่ ออกบูธแนะนำและขายข้าว วิธีการเพิ่มมูลค่าผลผลิต คือ ทำข้าวสารแพ็คถุงสูญญากาศ แปรรูปข้าวเป็นแป้งเพื่อทำขนม ทำจมูกข้าวส่งขายในพื้นที่ ได้มาตรฐานข้าว GAP และข้าวที่ปลูกผ่านการรับรองข้าว GI การทำนาแปลงใหญ่ส่งผลดีต่อทั้งสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจและสังคม การทำนาแปลงใหญ่ปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก มีร่องรอยการใช้น้ำทั้งหมด และร่องรอยการใช้น้ำสีเทา (ปริมาณน้ำเสียจากการทำการเกษตรที่ปล่อยออกสู่สิ่งแวดล้อม) น้อยกว่าแบบรายย่อย ทำนาแปลงใหญ่ได้กำไรสุทธิจากการขายข้าวเปลือกมากกว่ารายย่อย การรวมกลุ่มทำนาแปลงใหญ่ช่วยให้เกษตรกรได้รับความรู้วิธีการทำนาแบบลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต และเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการแปลงนาเพิ่มขึ้น ช่วยเหลือกัน และช่วยให้สุขภาพแข็งแรงขึ้นจากการลดใช้สารเคมี ปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการจัดการนาแปลงใหญ่แบบครบวงจร 8 ประการ คือ
- ความเป็นเจ้าของในพื้นที่นา
- แหล่งน้ำสำหรับการทำนามีพอเพียง
- การรวมกลุ่มและการวางแผนผลิตข้าวล่วงหน้า โดยพันธุ์ข้าวคุณภาพดี วิธีการปลูกข้าวและเทคโนโลยีเหมาะสมกับลักษณะของพื้นที่นา ปัจจัยที่ใช้ตลอดกระบวนการผลิตมีการสำรวจความต้องการและศักยภาพในการผลิตข้าวของเกษตรกร มีการจัดการด้านการตลาดและวางแผนลดความเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แมลงศัตรูข้าวและราคาข้าว สมาชิกกลุ่มและจำนวนพื้นที่ที่เข้าร่วมโครงการต้องมีความเหมาะสม โดยพิจารณาจากทรัพยากรที่จะใช้ร่วมกันในกลุ่ม
- การดูแลแปลงนาตั้งแต่เริ่มต้นปลูกจนถึงการเก็บเกี่ยวข้าว
- รวมกลุ่มเกษตรกรจ้างรถเกี่ยว ล้างทำความสะอาดรถเกี่ยวเพื่อช่วยป้องกันปัญหาข้าวปน การจัดการแปลงนาหลังเก็บเกี่ยวข้าวโดยไม่เผาฟางข้าว
- ผลผลิตที่ได้การรับรองมาตรฐาน
- การขายข้าวและแปรรูปผลผลิตข้าว โดยทำ MOU กับโรงสีข้าวในพื้นที่ใกล้เคียง หรือตลาดที่จะรองรับข้าวที่ผ่านการแปรรูป การบรรจุหีบห่อแบบถุงสูญญากาศ การแปรรูปผลผลิตข้าวควบคู่กับการพัฒนาเรื่องเล่าของผลิตภัณฑ์
- ความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อช่วยสนับสนุนเทคโนโลยีการผลิตข้าวและส่งเสริมด้านการตลาด
การจัดทำคู่มือสรุปองค์ความรู้ ภายใต้ชื่อ คู่มือนาแปลงใหญ่ฉบับชาวบ้าน มีขั้นตอนดังนี้
- ออกแบบเนื้อหา คำนึงถึงผู้ที่จะใช้ประโยชน์จากคู่มือเป็นสำคัญ
- ทดสอบความเข้าใจของกลุ่มเป้าหมาย
- ออกแบบรูปเล่มให้น่าหยิบ น่าจับและน่าอ่าน
- ผลิตและการเผยแพร่คู่มือสู่เกษตรกรในพื้นที่ศึกษาและหน่วยงานภาครัฐด้านการเกษตรในท้องถิ่นและส่วนกลาง
);