การถ่ายทอดการใช้ประโยชน์เกษตรเชิงบูรณาการจากมูลกระบือสร้างยุ้งฉางเก็บข้าว และผลิตปุ๋ยชีวภาพตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงแบบพึ่งพาตนเอง โดยสร้างความร่วมมือบูรณาการระหว่างหน่วยงาน ตลอดจนการพัฒนาผลการวิจัยการใช้ผลงานที่มีประโยชน์ใช้ปฏิบัติง่าย การอบรมถ่ายทอดเชิงปฏิบัติการแบ่งออกเป็น 3 กิจกรรม คือ
- การถ่ายทอดความรู้การประยุกต์ใช้มูลกระบือสร้างยุ้งฉางเก็บข้าวจากภูมิปัญญาท้องถิ่น
- การถ่ายทอดความรู้การผลิตปุ๋ยมูลสัตว์หมักสารชีวภาพใช้เอง เพื่อการผลิตพืช ผักปลอดภัย
- การถ่ายทอดความรู้การผลิต และการใช้จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง และเชื้อราที่มีประโยชน์
- การติดตามความก้าวหน้า และประเมินผลการนำองค์ความรู้ที่ได้รับการถ่ายทอดไปใช้ประโยชน์การถ่ายทอดความรู้ ที่ได้รับการคัดเลือกจาก 2 ประเภท คือ กลุ่มเกษตรกรที่ปลูกข้าว และเลี้ยงกระบือ กลุ่มเกษตรกรที่ปลูกข้าว ปลูกผัก หรือพืชชนิดต่าง ๆ และกลุ่มเจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐ โดยใช้วิธีการจัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการในพื้นที่จริงของกลุ่มเกษตรกรผู้ทำการเกษตรปลูกพืช และเลี้ยงกระบือในครัวเรือนในจังหวัดนครพนม
โดยแบ่งเป็น 6 กลุ่ม ๆ ละ 3 วัน โดยมีขั้นตอน คือ
- การกรอกใบสมัครผู้เข้ารับการอบรม
- การประเมินความพึงพอใจด้านความรู้วิทยากร และสถานที่การจัดฝึกอบรม
- การติดตามประเมินของจำนวนผู้รับการถ่ายทอดฯ มีการนำไปใช้ประโยชน์
- จำนวนสถานการณ์จัดตั้งเป็นศูนย์การเผยแพร่ และถ่ายทอดองค์ความรู้
- สัดส่วนผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจและสังคมที่เกิดจากการดำเนินงานถ่ายทอดเทคโนโลยีโครงการ
ใช้เป็นแนวทางในการเก็บข้อมูล และการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ ด้วยค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ต่ำสูงสุด ค่าต่ำสุด และค่ามาตรฐานความแปรปรวนผลการจัดการความรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยีจากผลการวิจัย พบว่า เกษตรกร หรือผู้ประกอบการที่ปลูกข้าวและปลูกพืช เข้ารับการถ่ายทอดองค์ความรู้ จำนวน 309 ราย มีความพึงพอใจต่อหลักสูตรที่จัดอบรมตลอดโครงการ คะแนนเฉลี่ย 4.32 (คิดเป็นร้อยละ 86.51) ระดับความพึงพอใจมากที่สุด และการประเมินวัดความรู้ของผู้เข้าร่วมอบรมก่อน และหลังการอบรมถ่ายทอดเทคโนโลยีเชิงปฏิบัติการใช้แบบทดสอบจำนวน 30 ข้อ พบว่า ความรู้หลังการอบรมที่ทำแบบทดสอบได้มากที่สุดอยู่ในช่วง 16-20 ข้อ จำนวน 116 ราย (คิดเป็นร้อยละ 37.54) การติดตามประเมินผู้เข้าร่วมโครงการหลังจากจัดฝึกอบรม เชิงปฏิบัติการ ภายใน 2-3 เดือน จำนวน 294 ราย (คิดเป็นร้อยละ 95.15) ผู้ที่เข้าร่วมรับความรู้ในการอบรมได้นำความรู้ไปใช้ประโยชน์ทันทีหลังการถ่ายทอด จำนวน 294 ราย (คิดเป็นร้อยละ 100.00) ปฏิบัติใช้เพื่อลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ (คิดเป็นร้อยละ 85.71) และเผยแพร่ ถ่ายทอดองค์ความรู้ (คิดเป็นร้อยละ 14.29) ผู้ที่ผ่านการอบรมได้นำความรู้ไปปฏิบัติหลังการอบรมภายใน 1 เดือน จำนวน 232 ราย (คิดเป็นร้อยละ 78.91) กิจกรรมที่นำองค์ความรู้ที่ได้รับไปปฏิบัติหลังการอบรมมากที่สุด คือ ผลิตปุ๋ยมูลสัตว์หมักสารชีวภาพร่วมกับการผลิตจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง และเชื้อราที่มีประโยชน์ จำนวน 233 ราย (คิดเป็นร้อยละ 79.25) การนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในด้านส่งเสริมรายได้หลัก จำนวน 236 ราย (คิดเป็นร้อยละ 80.77) เกษตรกรได้นำความรู้ไปใช้ภายในครอบครัวที่มีกิจกรรมปลูกพืช จำนวน 202 ราย (คิดเป็นร้อยละ 83.13) และผู้อบรมผ่านการประเมินที่ได้คะแนน 76-80 คะแนน (เกรด B+) มีจำนวน 145 ราย (ร้อยละ 49.32) ผลการดำเนินโครงการบรรลุเป้าหมายทั้งด้านผลผลิต และผลลัพธ์ของโครงการที่กำหนดไว้ตามตัวชี้วัด 5 ข้อ ดังนี้ คือ
- จำนวนผู้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีทั้งหมด 268 ราย (มากกว่าค่าเป้าหมาย 59 ราย หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 23.60)
- ความพึงพอใจของผู้รับ การถ่ายทอดฯ ร้อยละ 86.51 ค่าคะแนนระดับความพึงพอใจเฉลี่ย 4.32 อยู่ในระดับมากที่สุด
- ผู้รับการถ่ายทอดฯ มีการนำไปใช้ประโยชน์หรือปฏิบัติร้อยละ 100.00
- จำนวนสถานประกอบการที่นำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ 3 แห่ง คือ ศูนย์ภูมิพลัง (โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ) อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม กลุ่มกองทุนฟื้นฟูหนี้สินในจังหวัดนครพนม (กฟก. นครพนม) จังหวัดนครพนม และกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกผักริมโขงบ้านกลาง (หอมแบ่ง พริก ข้าวโพด ฟักทอง) อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม
- สัดส่วนผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจและสังคมที่เกิดจากการดำเนินงานส่งเสริมกิจกรรมจัดการความรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยีของโครงการเปรียบเทียบกับงบประมาณที่ได้รับ เท่ากับ 14.38 เท่าของงบประมาณที่ใช้จ่ายในการจัดกิจกรรม