จากการการสำรวจพฤติกรรมเสี่ยงของคนไทยพบว่า กลุ่มที่นิยมบริโภคปลาน้ำจืดที่มีเกล็ดขาวแบบดิบๆ เช่นปลาร้า ปลาส้ม ลาบปลา ปละก้อยปลา ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของคนไทย สาเหตุเกิดจากการรับประทานปลาเกล็ดขาวดิบ ปลากลุ่มนี้เป็นตัวกลางของระยะติดต่อของพยาธิใบไม้ตับ ซึ่งคนไทยไม่น้อยกว่า 2 ล้านคนที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับ และนำไปสู่การเกิดมะเร็งท่อน้ำดี ปลาส้มนับเป็นแหล่งหลักของการส่งต่อพยาธิใบไม้ตับ เนื่องจากประชาชนนิยมรับประทานแบบดิบๆ จากปัญหาดังกล่าวการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากปลาให้มีไขมันดี เพิ่มคุณค่าด้วยสมุนไพรกระเทียมไทย สารต้านอนุมูลอิสระจากข้าวดำและข้าวกล้องแดง และทำให้ปลอดพยาธิและสารก่อมะเร็ง นับเป็นการตลาดที่จะเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ควบคู่ไปกับอาหารที่สร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคได้เป็นอย่างดี งานวิจัยนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดการองค์ความรู้การพัฒนาผลิตภัณฑ์ปลาส้มสมุนไพรไทยไร้พยาธิปราศจากสารก่อมะเร็ง อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ให้แก่กลุ่มวิสาหกิจ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าทางโภชนาการ มีความปลอดภัย มีมาตรฐานสำหรับผู้บริโภค โดยประสานความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ชุมชน นักปรสิตวิทยา นักโภชนาการสาธารณะสุข เจ้าของธุรกิจและนักการตลาด จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ มีการทำแบบทดสอบก่อนและหลังการฝึกอบรม กิจกรร อบรมจะแบ่งออกเป็น 2 ตอน ตอนที่ 1 วิทยากรบรรยายให้ความรู้ ตอนที่ 2 ฝึกปฏิบัติการโดยรับชมวิดีโอการสาธิต ผ่านระบบ VDO conference จากนั้นติดตามผลการดำเนินงาน ผ่านช่องทางการติดต่อออนไลน์ และติดตามผลหลังเสร็จสิ้นการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ผลการศึกษาพบว่า เมื่อประเมินความรู้ก่อนและหลังเข้าร่วมอบรม ผู้เข้าร่วมอบรมมีคะแนนเฉลี่ย 2.59/10 (57.2 %) คะแนน ส่วนหลังการอบรมมีคะแนนเฉลี่ย 8.31/10 (83.1 %) คะแนน ซึ่งแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ p > 0.05 (P=0.000, SD=0.94) ระหว่างการฝึกอบรมผู้เข้าร่วมให้ความสนใจและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีตลอดระยะเวลาการฝึกอบรม หลังการฝึกอบรมมีการติดตามกลุ่มผู้เข้าร่วมอบรม และเป็นศูนย์กลางการติดต่อของกลุ่มวิสาหกิจที่มีประสบการณ์ และมีความหลากหลายทางอาชีพ สร้างเครือข่ายผู้ผลิตเพื่อบริโภค ภายในกลุ่มสังคมทำให้โครงการนี้เกิดการต่อยอด และสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่า ปลอดภัย สามารถะเพิ่มมูลค่า ก่อให้เกิดการตระหนักในเรื่องปัญหาสุขภาพจากการบริโภคเพิ่มขึ้น และสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการหรือกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่นำองค์ความรู้นี้ไปประยุกต์ใช้