โครงการวิจัยนี้มุ่งเน้น (1) จัดการองค์ความรู้เกี่ยวกับการจัดการสวนมังคุดนอกฤดูกาลแบบเกษตรแม่นยำ และ (2) ถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีเกษตรแม่นยำสาหรับมังคุดนอกฤดูกาล คัดเลือกเกษตรกรสวนมังคุดในพื้นที่ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช จำนวน 5 ราย ทำการถอดบทเรียนเกี่ยวกับการทำมังคุดนอกฤดูกาลและถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีเกษตรแม่นยำสำหรับมังคุดนอกฤดูกาล ได้เปรียบเทียบผลการนำระบบการควบคุมความชื้นในดินแบบ IoT มาชักนำการทำมังคุดนอกฤดูกาลและการทำมังคุดคุณภาพส่งออก ผลการศึกษาพบว่า เกษตรกรจัดการสวนมังคุดนอกฤดูกาลโดย เดือนมีนาคม-เมษายน เตรียมความพร้อมของต้นโดยการใส่ปุ๋ย 15-15-15 เดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ตกแต่งกิ่งให้โปร่ง เดือนสิงหาคม กระตุ้นให้แตกใบอ่อน เดือนกันยายนชักนำให้มังคุดออกดอกโดยการทำให้ความชื้นในดินต่ำ เดือนตุลาคม มังคุดออกดอก นอกฤดูกาล เดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม ผลมังคุดพัฒนาจากผลอ่อนไปเป็นผลแก่ ทำการฉีดยาป้องกันเพลี้ยไฟ รดน้ำโดยควบคุมความชื้นในดินให้คงที่ ใส่ปุ๋ยทางใบ เดือนมกราคม เก็บเกี่ยวผลผลิตมังคุดนอกฤดูกาล ผลการศึกษาสวนมังคุดที่มีการติดเซนเซอร์ควบคุมระบบรดน้ำแบบ IoT เปรียบเทียบกับสวนมังคุดที่ไม่มีระบบเซนเซอร์ พบว่า สวนมังคุดที่ติดตั้งระบบเซนเซอร์ได้ได้ผลผลิตมังคุดที่มีคุณภาพสูงเป็นที่ต้องการของตลาด มากกว่าสวนที่ไม่มีระบบเซนเซอร์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ดังนี้ จำนวนดอกต่อกิ่ง จำนวนผลต่อกิ่ง และน้ำหนักผลสูง เปอร์เซ็นต์ผลมังคุดที่ไม่เป็นแก้ว 88.50% ไม่เป็นยาง 94.00% ผิวไม่ลาย 30.50% แต่สวนที่ไม่มีระบบเซนเซอร์ เปลือกหนา จำนวนเมล็ดมาก เปอร์เซ็นต์ผลมังคุดที่ไม่เป็นแก้ว 58.00% ไม่เป็นยาง 86.50% ผิวไม่ลาย 6.00% แต่ไม่พบความแตกต่างของเส้นรอบวงต้น และความกว้างทรงพุ่ม ระหว่างสวนบริเวณรดน้ำ และไม่รดน้ำ ถ้าเกษตรกรเลือกติดตั้งเซนเซอร์ควบคุมระบบรดน้ำแบบ IoT มาใช้ในการทำมังคุดนอกฤดู ในช่วงการชักนำให้มังคุดออกดอก โดยการให้ความชื้นในดินค่าสูงกว่า 800 (ดินแห้ง) ประมาณ 21 วัน ก่อนการออกดอก และควบคุมการให้น้ำที่เหมาะสมช่วงผลพัฒนาถึงผลสุก เพื่อให้ได้มังคุดคุณภาพ โดยการจัดการความชื้นในดินให้คงที่ เนื่องจากค่าความชื้นของดินที่สูงกว่า 800 (ดินแห้ง) ทำให้เพิ่มโอกาสการระบาดของเพลี้ยไฟ ทำให้มังคุดมีลักษณะผิวเกลี้ยงไม่ลาย และการได้รับน้ำที่สม่ำเสมอจะทำให้ไม่เกิดเนื้อแก้วยางไหล นอกจากนี้ระบบควบคุมการให้น้าอัตโนมัติ ทำให้ลดพลังงานและค่าใช้จ่ายของเจ้าสวนมังคุดได้ สมมติเกษตรกร มีสวนมังคุด 10 ไร่ ระยะเวลา 1 ปี สามารถผลิตมังคุดได้ 7,700 กิโลกรัม พร้อมติดตั้งเซนเซอร์ควบคุมระบบรดน้ำแบบ IoT มังคุดที่ขายได้คิดเป็นคือ 6,699 กิโลกรัม รวมเป็นเงิน 1,004,850 บาท แต่ถ้าไม่ติดตั้งเซนเซอร์ควบคุมระบบรดน้ำแบบ IoT มังคุดที่ขายได้คิดเป็นคือ 4,312 กิโลกรัม รวมเป็นเงิน 646,800 บาท ทำให้เกษตรกรขาดรายได้ 358,050 บาทต่อปี