วัตถุประสงค์เพื่อสนองพระราชดำริโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ เพื่อสร้างเครือข่ายระดับหน่วยงานปกครองท้องถิ่นเข้าร่วมสนองพระราชดำริภายใต้โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน มีระยะเวลาดำเนินงาน 10 เดือน ดำเนินงานใน12 อำเภอ ของพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม การดำเนินงานประกอบด้วย 5 ขั้นตอน คือ 1.เลือกพื้นที่เป้าหมายเตรียมความพร้อม 2. กระบวนการปลุกปั้น 3.กระบวนการปรับเปลี่ยน 4. จัดกิจกรรมการอนุรักษ์เพื่อสร้างการรับรู้ สร้างจิตสำนึก 5. จัดตั้งศูนย์เรียนรู้อนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ผลการดำเนินงาน พบว่า องค์กรการปกครองท้องถิ่น (อปท.) ของจังหวัดมหาสารคามได้เข้าร่วมสนองพระราชดำริ โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นจำนวนทั้งสิ้น 112 หน่วยงาน จาก อปท. ทั้งจังหวัด จำนวน 142 หน่วยงาน โดยแยกเป็นที่สมัครเข้าร่วม 86 หน่วยงาน และรอส่งเอกสารสมัครเข้าร่วม 26 หน่วยงาน และที่ยังไม่ได้ดำเนินการเข้าร่วม จำนวน 30 หน่วยงาน ในส่วนโรงเรียนได้แนะนำให้สมัครในกลุ่มสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน ซึ่งสามารถสมัครและได้หนังสือตอบรับให้เข้าร่วมสนองพระราชดำริ จำนวน 32 โรงเรียน การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างต้นแบบโกสุมโมเดลสู่การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจาพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ของจังหวัดมหาสารคามกับหน่วยงานระดับ อปท. ของจังหวัดมหาสารคาม ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ รวมจำนวน 2,000 คน สถานภาพของผู้ตอบแบบสอบถาม ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง (ร้อยละ 63) ระดับการศึกษาปริญญาตรี (ร้อยละ 84.25) กิจกรรมการปฏิบัติเกี่ยวกับโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ โดยภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ ระดับมากที่สุด (ค่าเฉลี่ย 4.57 และ S.D.=0.66) ประสิทธิผลของต้นแบบโกสุมโมเดลฯ ต่อการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ ในจังหวัดมหาสารคาม โดยภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ ระดับมาก (ค่าเฉลี่ย 4.35 และ S.D.=0.66) ในขณะที่ประสิทธิผลของหน่วยงาน อปท. ในจังหวัดมหาสารคาม โดยภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ ระดับมาก (ค่าเฉลี่ย 4.21 และ S.D.=0.52)