งานวิจัยเรื่องเทคนิคการม้วนเส้นด้ายยืนด้วยนวัตกรรมที่ออกแบบและพัฒนาขึ้นใหม่สู่ชุมชนเชิงพาณิชย์ มีวัตถุประสงค์ เพื่อจัดการความรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยีเทคนิคการม้วนเส้นด้ายยืนให้กับวิสาหกิจชุมชน โดยมีการดำเนินงานวิจัยมี 5 ขั้นตอน ดังนี้ 1. ศึกษาขั้นตอนกระบวนการขึ้นเส้นไหมยืนแบบเดิม โดยศึกษาการม้วนเส้นไหมยืนในด้านการใช้พื้นที่สำหรับขึ้นเส้นไหมยืน ด้านระยะเวลาที่มีความสัมพันธ์กับความยาวของเส้นไหมยืน ด้านแรงงานรวมถึงจำนวนคนที่ใช้ในการขึ้นเส้นไหมยืน ขั้นตอนที่ 2 นำข้อมูลที่ได้มาประยุกต์เพื่อออกแบบและพัฒนาเครื่องม้วนเส้นไหมยืนโดยการผลิตต้นแบบเครื่องม้วนเส้นไหมยืนเพื่อทำการทดสอบและทดลอง จำนวน 4 ชุด ขั้นตอนที่ 3 นำต้นแบบเครื่องม้วนเส้นไหมยืนถ่ายทอดองค์ความรู้ต่อยอดภูมิปัญญาและเผยแพร่วิธีการใช้อุปกรณ์ม้วนเส้นไหมยืนโดยมีกลุ่มทอผ้าย้อมครามและผ้าขาวม้า 4 วิสาหกิจชุมชน ในจังหวัดสระแก้ว จังหวัดสกลนคร ได้แก่ กลุ่มทอผ้าบ้านหนองโกวิทย์ กลุ่มทอผ้าบ้านพรสวรรค์ จังหวัดสระแก้ว และ กลุ่มแม่บ้านแปรรูปผ้าบ้านขัวก่าย กลุ่มทอผ้ากี่กระตุกบ้านนางัว จังหวัดสกลนคร ขั้นตอนที่ 4 ผลิตผืนผ้าโดยกำหนดให้ทอผ้าขาวม้าลายสลับ ทอผ้าย้อมครามลายพื้น ขั้นตอนที่ 5 นำผ้าที่ทอไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป
จากการดำเนินโครงการครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมอบรมทั้งสิ้น 100 คน โดยมีผู้เข้ารับการอบรมในจังหวัดสระแก้ว จำนวน 2 วิสาหกิจชุมชน รวม 50 คน และในจังหวัดสกลนคร จำนวน 2 วิสาหกิจชุม รวม 50 คน ผลจากการประเมินที่ได้จากการรวบรวมข้อมูล พบว่าในการดำเนินกิจกรรมการอบรมครั้งนี้ มีผลที่ผ่านการวิเคราะห์ ค่าทางสถิติ ความพึงพอใจด้านใช้พื้นที่น้อยลงร้อยละ 94 ด้านเวลาการม้วนเส้นด้ายยืนน้อยลง ร้อยละ 94 ด้านลดการใช้แรงงานคน ร้อยละ 100 ด้านความสะดกวกในการม้วนเส้นด้ายยืน ร้อยละ 92 ด้านการประกอบใช้งานได้เอง ร้อยละ 80 ด้านคุณภาพและประสิทธิภาพของเส้นด้ายยืนเรียบตึงสม่ำเสมอ ร้อยละ 92 ด้านการติดตั้งอุปกรณ์ม้วนเส้นด้ายยืน ร้อยละ 86 ด้านความคุ้มค่าการลงทุนของเครื่องม้วนเส้นด้ายยืน ร้อยละ 96 ด้านความรวดเร็วในการม้วนเส้นด้ายยืนเป็นได้ เร็วขึ้น ร้อยละ 94 และด้านการเปรียบเทียบทดสอบการม้วนเส้นด้ายยืนแบบใหม่ที่ได้ทดสอบการ ม้วนเส้นด้ายยืนฯ ในเรื่องคุณภาพของผ้าทอ ร้อยละ 90
จากผลการตรวจและติดตามการนำเทคโนโลยีและองค์ความรู้ที่ได้ไปใช้ประโยชน์ โดยผ่านช่องทางต่าง ๆ สามารถสรุปได้ว่ากลุ่มวิสาหกิจชุมชนสามารถดำเนินการม้วนเส้นด้วยยืนด้วยเทคนิคที่ออกแบบและพัฒนาขึ้นใหม่ ได้ด้วยตนเอง นอกจากนี้ยังพบว่าวิสาหกิจชุมชนเหล่านี้สามารถสร้างแบรนด์สินค้าจากผลิตภัณฑ์ผ้าย้อมครามที่ผ่านการใช้อุปกรณ์เทคนิคการม้วนเส้นด้ายยืนฯ ดังกล่าว ออกจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ได้อย่างน้อย 4 ราย เช่น แบรนด์ผ้าย้อมครามภูสะไน ผ้ายีนจากครามบ้านนางัว ผ้าขาวม้าบ้านหนองโกวิทย์ และผ้าย้อมครามตุ้มโฮม และเกิดอาชีพใหม่ในโครงการวิจัยนี้ คือ การรับจ้างม้วนเส้นด้ายยืน เป็นต้น
กลุ่มวิสาหกิจบางกลุ่มได้เริ่มดำเนินการขอตรารับรองมาตรฐานสินค้า เช่น มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) และมาตรฐานนกยูง ทั้งนี้กลุ่มวิสาหกิจชุมชน เชื่อมั่นว่าผลิตภัณฑ์ผ้าย้อมคราม ผ้าขาวม้า และผ้าพื้นเมืองที่ใช้เทคนิคการม้วนเส้นด้ายยืนด้วยนวัตกรรมที่ออกแบบและพัฒนาขึ้นใหม่จะไม่เกิดรอยตำหนิบนผืนผ้า ตัวอย่างวิสาหกิจชุมชนที่ได้รับรองมาตรฐานและได้นำเสนอผลงาน ณ สาธารณรัฐปกครองพิเศษ ฮ่องกง ได้แก่ วิสาหกิจชุมชนการทอผ้าคราม กลุ่มภูสะไน เป็นต้น