โครงการการจัดการความรู้ และถ่ายทอดเทคโนโลยีการเพิ่มมูลค่า และการใช้ประโยชน์ เส้นใย สับปะรดเพื่อผลิตภัณฑ์กระดาษหัตถกรรมที่เป็นมิตรแก่สิ่งแวดล้อมในเชิงพาณิชย์ มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดการความรู้ และถ่ายทอดเทคโนโลยี การผลิตเส้นใยจากใบสับปะรด เทคนิคการเพิ่มความแข็งแรงให้กับกระดาษ ให้กับกลุ่มเกษตรกรที่ผลิตกระดาษใบสับปะรดในปัจจุบัน และประชาชนทั่วไปที่สนใจวิธีดําเนินการ
โดยคัดเลือกพื้นที่กลุ่มเป้าหมายในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สํารวจกลุ่มเป้าหมายบริเวณใกล้เคียง กําหนดแนวทางการถ่ายทอดเทคโนโลยี ทําการอบรมถ่ายทอดเทคโนโลยีทั้งทฤษฎี และปฏิบัติติดตามผล และประเมินการนําเทคโนโลยีและองค์ความรู้ที่ได้รับไปใช้ประโยชน์มีกลุ่มผลิตกระดาษสับปะรดเข้ารับการอบรมจํานวน 5 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรวังยาวพัฒนา อําเภอปราณบุรี กลุ่มผลิตกระดาษใบสับปะรด บ้านละเมาะพัฒนา อําเภอหัวหิน กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านทุ่งเคล็ด อําเภอสามร้อยยอด กลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์จากใบสับปะรดบ้านรวมไทย อําเภอกุยบุรี และ กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรร่วมใจพัฒนา อําเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์จํานวน 139 คน และนักเรียน จํานวน 24 คน รวมผู้เข้ารับการอบรมทั้งสิ้น จํานวน 163 คน การอบรมในภาคบรรยายมี เรื่องเส้นใยสับปะรดสําหรับผลิตกระดาษหัตถกรรม และการเตรียมเส้นใยสับปะรดด้วยกระบวนการทางกล และเคมี อุปกรณ์ เครื่องมือ การลงทุนผลิตกระดาษ การผลิตเยื่อ ฟอกขาว ย้อมสี มัดย้อม การทําแผ่นกระดาษและการเพิ่มความแข็งแรงให้กับกระดาษ จากเส้นใยใบสับปะรด และการทําซิล์สกรีน การสร้างต้นแบบ และออกแบบผลิตภัณฑ์จาก กระดาษเส้นใยสับปะรด การตลาด และศักยภาพของเส้นใยธรรมชาติในอุตสาหกรรมกระดาษหัตถกรรมการจัดการบริหาร และการคิดต้นทุนราคา และภาคปฏิบัติ เป็นการเตรียมเส้นใยจากใบสับปะรด การต้มการฟอกเยื่อ ทําแผ่น การย้อมสีพับย้อม การเพิ่มความแข็งแรง และการกันน้ำให้กระดาษ และการพิมพ์ลายบนแผ่นกระดาษซิลค์สกรีน
ผลการประเมินที่ได้จากผู้เข้ารับการอบรม พบว่า การนําความรู้ที่ได้รับไปใช้กับชีวิตประจําวัน การนําความรู้ที่ได้รับไปใช้ประโยชน์ต่อการประกอบอาชีพ สามารถช่วยเพิ่มผลผลิต สามารถเพิ่มคุณภาพผลผลิต สามารถลดต้นทุนการผลิต ได้รับประโยชน์มากที่สุด ด้านกระบวนการ และขั้นตอน มีความพึงพอใจด้านการรับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับการอบรม การประชาสัมพันธ์ทั่วถึง หลากหลายรูปแบบ ช่วงเวลา และระยะเวลาในการจัดการอบรม ความเหมาะสมของรูปแบบการจัดการอบรม มีความพึงพอใจมากที่สุด สรุปความพึงพอใจภาพรวมของด้านกระบวนการ และขั้นตอนการให้บริการ มีความพึงพอใจมากที่สุด ผลการติดตาม และประเมินผลหลังการอบรม และถ่ายทอดเทคโนโลยีเป็นเวลา 3 เดือน โดยใช้วิธีการสัมภาษณ์ และตอบแบบสอบถามของหัวหน้ากลุ่ม หลังจากอบรมได้นําความรู้ไปใช้ประโยชน์ทันทีในลักษณะการให้บริการปรึกษา เป็นวิทยากรถ่ายทอดเทคโนโลยีและเผยแพร่ต่อ และใช้ในการประกอบอาชีพของกลุ่มทําให้กลุ่มมีรายได้เสริมเพิ่มขึ้นประมาณเดือนละ 4,000 – 10,000 บาท และช่วยลดต้นทุนการผลิตลงประมาณเดือนละ 1,000- 5,000 บาท โครงการการจัดการความรู้ และถ่ายทอดเทคโนโลยีการเพิ่มมูลค่าและการใช้ประโยชน์เส้นใยสับปะรดเพื่อผลิตภัณฑ์กระดาษหัตถกรรมที่เป็นมิตรแก่สิ่งแวดล้อมในเชิง พาณิชย์ประสบผลสําเร็จตามวัตถุประสงค์