การจัดกิจกรรม เพื่อส่งเสริมการมีอาชีพอย่างยั่งยืนและเป็นรูปธรรม ด้วยการกระตุ้นเยาวชนในส่วนของงานออกแบบชิ้นงาน และปรับแบบให้สอดคล้องกับการสร้าง อัตลักษณ์ของตนเอง การถ่ายทอดองค์ความรู้ผ่านกิจกรรมการประกวดออกแบบลวดลายเอกลักษณ์ประจำจังหวัดสระแก้วโดยมีการจัดกิจกรรม roadshow นักเรียนกลุ่มเป้าหมายจากโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว ได้แก่โรงเรียนสระแก้ว โรงเรียนวัฒนานคร และโรงเรียนอรัญประเทศ เพื่อรับสมัครผลงานเข้าประกวด จำนวน 153 ผลงาน คัดเลือกในรอบที่ 1 จำนวน 30 ผลงาน เพื่อเข้ารับการอบรมต่อยอดกำรออกแบบลวดลายเอกลักษณ์ประจำจังหวัดสระแก้วและการประยุกต์ลวดลายลงบนผลิตภัณฑ์ เป็นการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการออกแบบให้กลุ่มชุมชนเพื่อความภาคภูมิใจในการสร้างผลงานด้วยความสามารถของตนเอง และทำการคัดเลือกในรอบที่ 2 จำนวน 10 ผลงานและนำมาผลิตชิ้นงานจริงร่วมกับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ จัดแสดงผลงานและทำการประเมินผลสำเร็จของโครงการพร้อมเผยแพร่สู่สาธารณะ ผลิตภัณฑ์ที่สามารถแสดงถึงเอกลักษณ์ของจังหวัดสระแก้วได้ และการจัดแสดงผลงานกำรออกแบบในงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติ เพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ข้อคิดเห็นร่วมกับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรม และการเสริมสร้างทักษะการเป็นผู้ประกอบการให้กับนักเรียน นอกจากนี้ได้มีการผลิตชิ้นงานที่มาจากการมีส่วนร่วมของชุมชน พร้อมทั้งการจัดหลักสูตรที่เหมาะสมแก่ชุมชนในการผลิตชิ้นงานเครื่องประดับ ชิ้นงานที่ผ่านการชนะเลิศผลงานทั้ง 10 ผลงาน ได้ทำการผลิตได้มีการจัดแสดงนิทรรศการงาน Bangkok Gems and Jewelry International Fair และ พื้นที่แสดงสินค้าของมาบุญครองทำให้มีผู้สนใจทั้งในอุตสาหกรรมเครื่องประดับและทั่วไป การสร้างหลักสูตรการผลิตเครื่องประดับยาถม ได้มีการเริ่มทดลองที่ระบบการจัดการกิจกรรมการออกแบบจากผู้เชี่ยวชาญ ผ่านระบบออนไลน์ และสามารถเห็นผลคะแนนได้หลังจากการตัดสินผลการประกวด และมีการถ่ายทอดองค์ความรู้ผ่านการถอดบทเรียนในหนังสือ อาชีพช่างเครื่องถมไทย เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้แก่คนในชุมชนในการพัฒนาอาชีพเสริมต่อไป นอกจากนี้ทางโครงการยังได้ เชื่อมโยงกับ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ทำการสั่งการผลิตหลังจากจบโครงการโดยจะนาผลงานไปจัดสร้างเป็นแบรนด์ของบริษัทด้านการรับใช้สังคมต่อไปทำให้ชุมชนเกิดทิศทางในการทำงานของท้องถิ่นของตนเองอย่างเป็นระบบ อย่างไรก็ดีการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ร่วมกับการฝึกอาชีพเสริมให้กับคนในชุมชนอาจจะเป็นกลยุทธ์ก้าวต่อไปของ คณะผู้วิจัยในการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดการเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม